ในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 61/2564 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ พบเรือนจำกลางนครสวรรค์ระบาดเพิ่ม 1 แห่ง ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดง 36 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 106 แห่ง
ขณะที่ ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 388 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 302 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 86 ราย) รักษาหายเพิ่ม 293 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,139 ราย (กลุ่มสีเขียว 86.4% สีเหลือง 13.2% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 373 ราย ปริมณฑล 1,784 ราย และต่างจังหวัด 3,982 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 45,785 ราย หรือ 87% ของผู้ติดเชื้อสะสม 52,649 ราย เสียชีวิตสะสม 82 ราย คิดเป็นอัตรา 0.15% ของผู้ติดเชื้อสะสม
สำหรับผู้เสียชีวิตในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางขอนแก่น และเรือนจำพิเศษพัทยา ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว และสูงอายุ แม้ว่าได้ดำเนินการดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. วันนี้ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรวบรวมข้อมูลผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง สูงอายุ และมีโรคประจำตัว เพื่อให้สามารถเข้าถึงการรักษา ยา และเวชภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงเมื่อมีการระบาดขึ้น รวมทั้งการปฏิบัติงานเชิงรุก การสอบสวนโรค และการจัดทำแผนควบคุมการระบาด เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อตั้งแต่เริ่มพบการติดเชื้อในเรือนจำขึ้น ซึ่งจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็วทันเวลา จะช่วยลดความรุนแรงของโรค ตลอดจนลดการเสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดหาและใช้ยาฟ้าทะลายโจร ได้กำชับให้แต่ละเรือนจำปลูกและผลิตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเร่งจัดหายาฟ้าทะลายโจร เพื่อสำรองแก่ผู้ต้องขังอย่างน้อยรายละ 50 แคปซูล ซึ่งจะทำให้มียาฟ้าทะลายโจรรวมกว่า 14 ล้านแคปซูลภายในเดือนสิงหาคมนี้ และที่เรือนจำจะผลิตได้อีกกว่า 4 ล้านแคปซูล ซึ่งจะเพียงพอต่อการใช้งานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และลดความรุนแรงของโรคได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อเป็นเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 1 ราย และเยาวชนรักษาหายแล้ว 2 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 18 ราย เด็กและเยาวชน 35 ราย รวม 53 ราย ผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 45 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 11 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 3 แห่ง และติดเชื้อ 8 แห่ง สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนคงที่ 132 ราย หรือคิดเป็น 3.14% จากทั้งหมด 4,197 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีน 3,794 ราย หรือคิดเป็น 86.82% จากทั้งหมด 4,370 ราย
/////////////////////////