วันที่ 11สิงหาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณี (EOC) โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านระบบทางไกล (VDO Conference)นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวขอบคุณและชื่นชมทีมแพทย์ชนบท 38 ทีมจากทั่วประเทศ ที่ร่วมดำเนินการเชิงรุกในพื้นที่ กทม. เพื่อคัดแยกผู้ป่วยโควิดออกให้เร็วที่สุด โดยผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย จะนำเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation:HI) และที่ชุมชน (Community Isolation:CI) พร้อมจ่ายยาฟ้าทะลายโจรหรือยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เพื่อรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ทีมแพทย์ชนบท 38 ทีมจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ 6 ทีม ภาคกลาง 10 ทีม ภาคตะวันออก 2 ทีม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ทีม และภาคใต้ 8 ทีม เดินหน้าตรวจเชิงรุกในพื้นที่ กทม. ระหว่างวันที่ 4-10 สิงหาคมนี้
ทีมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การดำเนินการของทีมแพทย์ชนบทในครั้งนี้ มีเป้าหมายคัดกรองผู้ป่วย จำนวน 250,000 ราย ตั้งแต่วันที่ 4-10 สิงหาคม CCR Team คัดกรองด้วยชุดทดสอบเอทีเค ( ATK) 141,516 คน พบผลบวก 15,588 คน คิดเป็นร้อยละ11 เป็นผู้ป่วยสีเหลือง+แดงประมาณ 1 ใน 3 ฉีดวัคซีนได้ 7,412 คน สรุปได้ว่า ATK เป็นหัวใจสำคัญ ช่วยให้การจ่ายยาทำได้เร็วมาก และต้องหาแนวทางให้เข้าถึงยาได้มากขึ้น ชุมชนแอดอัดทำ HI ยาก ต้องทำ CI หรือรพ.สนาม ส่วนการฉีดวัคซีนเชิงรุกช่วยให้กลุ่มคนชายขอบ กลุ่มเสี่ยง เข้าถึงวัคซีนมากขึ้น แต่พบว่าส่วนหนึ่งไม่กล้าฉีด โดย ring vaccination เป็นโมเดลที่ดีในชุมชนที่มีการระบาด ถือเป็นปฏิบัติการที่ให้ความหวังและทำให้เห็นว่าสาธารณสุขไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แสดงความชื่นชมความเสียสละและอุทิศตนของทีมแพทย์ชนบทที่เข้ามาสนับสนุนการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรุงเทพมหานคร รวมทั้งทีมอาสาจากภาคประชาชน ซึ่งมั่นใจว่า ความสามัคคีของคนไทย จะเป็นพลังของชาติ ให้ไทยสามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้
***********************11 สิงหาคม 2564