กรมอนามัย จัดประชุมวิชาการ ฯ ครั้งที่ 14 ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูป ระบบสุขภาพ

​กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 “ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ”

​วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 “ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ” ณ กรมอนามัย ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะนี้ ซึ่งเป็นทั้งวิกฤตและโอกาสของการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทย ให้สามารถรองรับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงจำเป็นต้องปรับระบบและวิธีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยอาศัยข้อมูลองค์ความรู้ทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอด และสร้าง องค์ความรู้ใหม่ให้ทันต่อสถานการณ์ ผ่านเวทีประชุมวิชาการระดับชาติ ซึ่งในปี 2564 นี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยกำหนดการประชุมวิชาการภายใต้แนวคิด “ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูป ระบบสุขภาพ” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยี รวมทั้งความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายและกฎหมายด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเพื่อสานสัมพันธ์และสร้างแรงจูงใจ ในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ รวมทั้งเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนสร้างกระแสสังคมให้เกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อประชาชนสุขภาพดีต่อไป

​ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม นับเป็นพื้นฐานสำคัญของการส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี จำเป็นต้องมีการยกระดับและพัฒนาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น การจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม จำนวน 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย

1) องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย

2) องค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย

3) กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNFPA) 4) มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์

5) สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย

6) สมาคมอนามัยแห่งประเทศไทย

7) สมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย

8) สมาคมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพไทย

โดยการประชุมเน้นรูปแบบ online และมีมาตรการป้องกันควบคุม การแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามการประชุมวิชาการผ่านทาง Facebook LIVE กรมอนามัย หรือหากต้องการข้อมูลการประชุมวิชาการเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://academic14th.anamai.moph.go.th/th” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 9 สิงหาคม 2564