เกษตรฯ เร่งคืนชีพสวนส้มโอทับทิมสยามเสียหายกว่าพันไร่

กรมวิชาการเกษตร  รุกกอบกู้สวนส้มโอทับทิมสยามสินค้า GI ไทย   หลังสำรวจพบเสียหายจากปาบึก 1,800 ไร่  ชี้หลังน้ำลดใหม่ๆ เป็นพื้นที่อ่อนไหวเสี่ยงโรครากเน่าโคนเน่า  แนะใช้สารชีวภัณฑ์ไตรโคเดอร์มาราดดินหรือฉีดพ่นทางใบ  หากต้องการให้ส้มโอฟื้นตัวเร็วพ่นปุ๋ยทางใบหรือใช้ปุ๋ยเกล็ดพ่นทุก 10 วัน

นางสาวเสริมสุข   สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึกส่งผลกระทบให้น้ำท่วมสวนส้มโอทับทิมสยามในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ ได้แก่         อ.เมือง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกจำนวน 1,300 ไร่ เสียหาย 200 ไร่   และอ.ปากพนังมีพื้นที่ปลูกจำนวน 2,800 ไร่เสียหาย 1,600 ไร่  รวมพื้นที่สวนส้มโอทับทิมสยามจากทั้ง 2 อำเภอที่เสียหายจากน้ำท่วมทั้งหมดจำนวน  1,800 ไร่ ได้สั่งการให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ของกรมวิชาการเกษตรเข้าไปตรวจสอบความเสียหายและให้คำแนะนำวิธีการฟื้นฟูสวนส้มโอให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็วที่สุดแก่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน

ขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ หลังน้ำลดใหม่ๆ เกษตรกรควรงดการนำเครื่องจักรกลหนัก บุคคล หรือสัตว์เลี้ยงเข้าไปเหยียบย่ำในพื้นที่บริเวณโคนต้นโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ระบบรากพืชได้รับความเสียหายทำให้ต้นโทรมและอาจตายได้   แต่ถ้าในพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังให้ขุดร่องระบายน้ำออกจากบริเวณโคนต้นโดยเร็วและมากที่สุด   กรณีเกิดการทับถมดินหรือทรายบริเวณแปลงปลูกให้ขุดหรือปาดออกจากโคนต้น   จากนั้นควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง เพื่อลดการคายน้ำและเร่งการแตกใบใหม่ให้เร็วขึ้น สำหรับต้นที่กำลังติดผล ให้ปลิดผลออกบางส่วนเพื่อให้ต้นคงอยู่ได้

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ภายหลังน้ำลดต้นส้มโออาจเกิดปัญหารากเน่าและโคนเน่า   ดังนั้นเมื่อดินแห้งควรพรวนดินเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้รากพืชจะช่วยให้รากแตกใหม่ได้ดีขึ้น   เป็นการปรับปรุงสภาพของดินให้มีความสมบูรณ์  และให้ตรวจดูแผลโรครากเน่าโคนเน่าบริเวณโคนต้น   หากพบให้ถากเนื้อเยื่อที่เสียออกแล้วทาด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา   อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนแรกหลังน้ำลดห้ามใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราคาร์เบนดาซิม เพราะจะทำให้ใบแก่ร่วงเร็วก่อนอายุ   และห้ามใช้สารควบคุมวัชพืชหรือยาฆ่าหญ้า  ควรใช้วิธีตัดหรือดายหญ้าแทน  รวมทั้งห้ามราดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดรักษาโรครากเน่าโคนเน่า   แต่ให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาราดดินหรือฉีดพ่นทางใบแทน   หากเกษตรกรต้องการให้ต้นส้มโอฟื้นตัวได้เร็วขึ้นแนะนำให้พ่นปุ๋ยทางใบหรือใช้ปุ๋ยเกล็ดสูตร 20-20-20 หรือสูตร 21-21-21 ในอัตราตามคำแนะนำข้างฉลาก ฉีดพ่นทุก 10 วัน จนกระทั่งต้นแตกใบอ่อนเป็นใบเพสลาด 

“ส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามปากพนังเป็นสินค้า GI ของประเทศไทย  มีลักษณะประจำพันธุ์ที่โดดเด่น คือเนื้อผลหรือที่เรียกว่า กุ้ง มีสีชมพูเข้มจนถึงแดงเหมือนสีทับทิม รสชาติหอมหวาน   เนื้อนุ่มน่ารับประทาน  ผิวผลส้มโอมีขนอ่อนนุ่มปกคลุมคล้ายกำมะหยี่   จำหน่ายได้ในราคาสูง  ทำให้เกษตรกรเริ่มขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้น เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ   ดังนั้นจึงต้องเร่งฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด  หากเกษตรกรต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช  โทรศัพท์ 0-7580-9709” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

*************************************************

พนารัตน์   เสรีทวีกุล : ข่าว