พาณิชย์’ ประสานพันธมิตรภาคเอกชน กำหนดมาตรการช่วยเหลือร้านโชวห่วยที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน กำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก 4 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการโชวห่วยในพื้นที่ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ตอกย้ำพื้นฐานคนไทย…มีน้ำใจ..ไม่ทิ้งกัน

                นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชนเพื่อกำหนดและหามาตรการช่วยเหลือร้านโชวห่วยและผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสงขลา เนื่องจากร้านโชวห่วยมีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เป็นแหล่งกระจายสินค้าสู่ชุมชน และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง”

“ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้หารือเพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาร้านค้าโชวห่วยในพื้นที่ ที่ประสบภัย ร่วมกับ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด รวมทั้ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) โดยจะจัดทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือในการจัดการร้านค้าโชวห่วยที่ได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึก 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถฟื้นตัวจากความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว และเปิดบริการประชาชนในพื้นที่ได้ทันที รวมถึงลดราคาสินค้าที่จำหน่ายให้กับร้านโชวห่วย เพื่อลดต้นทุนของร้านโชวห่วยอันจะเป็นการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ในพื้นที่ ทำให้ซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง ทำให้ร้านโชวห่วยและประชาชนได้รับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจน้อยลง”

“และกรณีที่ร้านโชวห่วยได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึกค่อนข้างมาก หรือต้องการปรับปรุงร้านค้า และต้องใช้เงินทุน กรมฯ ได้ประสาน SME D Bank เสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ดังนี้ บุคคลธรรมดา ปีที่ 1 – 3 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.42 ต่อเดือน และนิติบุคคล ปีที่ 1 – 3 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน”

“ทั้งนี้ มีร้านโชวห่วยในพื้นที่ 4 จังหวัดที่ประสบภัยฯ จำนวนทั้งสิ้น รวม 4 จังหวัด 53,753 ร้านค้า แบ่งเป็น จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 15,157 ร้านค้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 14,146 ร้านค้า จังหวัดชุมพร จำนวน  7,166 ร้านค้า และ จังหวัดสงขลา จำนวน 17,284 ร้านค้า

“นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบภัยฯ และได้รับผลกระทบใน 23 จังหวัด ได้แก่ ภาคตะวันออก 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคใต้ 16 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช ปัตตานี สุราษฎร์ธานี สงขลา นราธิวาส ชุมพร ตรัง พัทลุง ระนอง กระบี่ ยะลา เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สตูล ภูเก็ต พังงา และภาคกลาง 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมถึงเขตที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมีมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ ใน 4 แนวทางหลัก ดังนี้”

“1) ผ่อนผันการแจ้งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ซึ่งตามพระราชบัญญัติ การบัญชี พ.ศ. 2543 กำหนดให้แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบถึงการสูญหายหรือเสียหายให้สามารถยื่นล่าช้าและสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจบัญชีได้ ทั้งนี้ ธุรกิจสามารถแจ้งบัญชีและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Permit) ได้ทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th

2) ผ่อนผันการยื่นงบการเงินประจำปี สำหรับธุรกิจที่มีหน้าที่ต้องยื่นงบฯ ในช่วงเกิดเหตุฯ โดยสามารถยื่นล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดได้ออกไปอีก 1 เดือน

3) ขยายระยะเวลาการยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลที่ต้องยื่นจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดที่กฎหมายกำหนดยื่นภายในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2562 และขยายระยะเวลาการส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ครบกำหนดส่งระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2562 เมื่อเหตุฯ สิ้นสุดลงให้นิติบุคคลยื่นขอขยายระยะเวลาภายใน 15 วัน

4) จัดตั้งศูนย์บริการรับจดทะเบียน ณ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นขอจดทะเบียนให้กับนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ใน 23 จังหวัด ที่ประสบภัยฯ และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม”

ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ทั้งในส่วนของประชาชน ภาคธุรกิจ และธุรกิจโชวห่วย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการการช่วยเหลือฯ ได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ หรือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th

 

*******************************************

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า