สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 6 ส.ค. 64

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 6 ส.ค. 64

+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง

+ แม่น้ำสายหลัก ภาคใต้ ภาคตะวันตก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออก และแม่น้ำโขง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มทรงตัว ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำน้อยถึงปกติ แนวโน้มลดลง

+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 39,988 ล้าน ลบ.ม. (4ต%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 35,353 ล้าน ลบ.ม. (49%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 9 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 1 แห่ง (อ่างฯน้ำพุง)

+ กอนช. ติดตาม ประเมิน สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำตาปี ตามที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี จากวันละ 5 – 7 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 10 – 20 ล้าน ลบ ม. เพื่อเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าในช่วงการทำงานบำรุงรักษาแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ JDA-A18 ในช่วงวันที่ 6 – 11 ส.ค.64

กอนช. ได้ประเมินคาดการณ์แนวโน้มผลกระทบด้านท้ายน้ำจากกรณีเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. โดยเขื่อนรัชชประภา จะระบายน้ำในอัตรา 390 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้แม่น้ำพุมดวง บริเวณท้ายเขื่อน อ.บ้านตาขุน ระดับน้ำสูงสุด ในช่วงบ่าย วันที่ 6 ส.ค. 64 ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1.53 เมตร บริเวณ อ.คีรีรัฐนิคม ระดับน้ำสูงสุดในช่วงเช้า วันที่ 7 ส.ค. 64 ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2.22 เมตร โดยการเพิ่มอัตราการระบายน้ำไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ และแม่น้ำยังสามารถรองรับน้ำได้

ปัจจุบัน (วันที่ 6 ส.ค. 64) แม่น้ำพุมดวง บริเวณ อ.คีรีรัฐนิคม ระดับน้ำ 3.70 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 6.50 เมตร ทั้งนี้ จะเกิดผลกระทบขึ้นเล็กน้อยต่อระดับน้ำในแม่น้ำตาปี บริเวณ อ.พุนพิน ที่รับน้ำจากแม่น้ำพุมดวงก่อนลงสู่ทะเลเนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล โดยระดับน้ำสูงสุดในช่วงเช้า วันที่ 10 ส.ค.64 ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 0.66 เมตร