กรมอนามัย แนะ ซาเล้งเก็บขยะ – ขวด – พลาสติก สวมหน้ากากตลอดเวลา ใส่ถุงมือลดเสี่ยงสัมผัสขยะติดเชื้อโควิด

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ที่ประกอบอาชีพเก็บขยะ เก็บของเก่า ขวด พลาสติกขาย ต้องป้องกันตนเองขณะปฏิบัติงานด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลา สวมถุงมือ เพื่อลดการสัมผัสขยะกับมือโดยตรง ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการนำเสนอข่าวพบ ผู้ติดเชื้อจากการเก็บขวดน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีอาชีพขับซาเล้งเก็บขยะที่จังหวัดนครราชสีมานั้น จากกรณีนี้นับว่ามีความเสี่ยงจากการใช้มือสัมผัสขวดน้ำพลาสติกที่อาจมีปนเปื้อนเชื้อโรคบนผิวสัมผัสได้ โดยเฉพาะหากพบขวดน้ำที่บรรจุหน้ากากอนามัยไม่ควรไปเก็บหรือสัมผัสอย่างเด็ดขาด เพราะจะเกิด การติดเชื้อจากสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อโควิดได้ รวมถึงอาจติดโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่อาจมีการปนเปื้อนมากับขยะ ส่วนเชื้อโควิด-19 ที่ติดอยู่กับภาชนะหรือวัตถุต่าง ๆ เช่น ภาชนะที่เป็นพลาสติก สแตนเลสสตีล จะอยู่ได้นาน 2-3 วัน สำหรับพื้นผิวที่เป็นกระดาษแข็ง ผ้าคอตตอน อยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง ส่วนพื้นผิวทองแดง อยู่ได้นาน 4 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ซึ่งจะอยู่ได้นานหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศชื้น แต่สภาพแวดล้อมในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนและมีแสงแดด อาจทำให้เชื้อโควิด-19 อยู่ได้ไม่นาน และ หากมีการสัมผัสขวดน้ำที่บรรจุหน้ากากอนามัยโดยไม่มีการล้างมือ แล้วนำมือไปสัมผัสกับใบหน้า ทำให้มี ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้

​นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ประกอบอาชีพเก็บของเก่า ขวดเก่าขาย จำเป็นต้องรู้จักวิธีการป้องกันตนเองขณะปฏิบัติงาน ดังนี้

1) ให้สวมถุงมือขยะปฏิบัติงานทุกครั้ง หรือหากไม่สามารถหา ถุงมือได้ ให้ใช้ถุงพลาสติกสวมแทน หรือให้ใช้อุปกรณ์ในการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ แทน เพื่อลดการสัมผัสกับมือโดยตรง

2) สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือขยะจากสารเคมีมาสัมผัสร่างกายได้

3) ขณะปฏิบัติงานให้สวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า ปาก จมูก ตา เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อได้ง่าย

4) หลังการปฏิบัติงานทุกครั้ง ให้ทิ้งถุงมือ หน้ากากอนามัย ที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดสนิทหรือถุงพลาสติก โดยมัดปากถุงให้แน่น แล้วล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ และหลังเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน ผู้ปฏิบัติงานต้องอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาดทันที

​“สำหรับการจัดการขยะทั่วไปอย่างถูกวิธีนั้น ขอให้ประชาชนคัดแยกมูลฝอยในครัวเรือนเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1) มูลฝอยทั่วไป เช่น ถุงพลาสติก ภาชนะใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียว เป็นต้น ให้เก็บรวบรวมนำไปทิ้งลงในถังที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อรอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บขน และนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป

2) มูลฝอยรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก เป็นต้น ให้เก็บรวบรวมไว้ก่อนและรอจัดการในภายหลัง

3) มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน เช่น ภาชนะบรรจุน้ำยาฆ่าเชื้อ ขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ กระป๋องสเปรย์ เป็นต้น ให้เก็บรวบรวมไว้ในภาชนะรองรับ เพื่อรอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บขน นำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป ทั้งนี้ ขยะแต่ละประเภทขอให้ไปทิ้งในจุดรวบรวมขยะที่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้หรือตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 4 สิงหาคม 2564