พก. ระดมส่งทีมสหวิชาชีพ ปล่อยคาราวานช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึก ที่ภาคใต้ พร้อมเร่งเดินหน้าแผนช่วยเหลือและฟื้นฟูคนพิการที่ประสบภัย

วันที่  7 ม.ค. 62  เวลา 07.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำโดยนางธนาภรณ์  พรมสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ร่วมกับองค์กรคนพิการ จัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก โดยขบวนรถเริ่มต้นเส้นทางจากที่ตั้งสำนักงาน พก. ออกเดินทางไปมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคพร้อมด้วยเก้าอี้สุขา เพื่อช่วยเหลือคนพิการและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ มีจุดหมายที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนส่งมอบให้คนพิการและครอบครัวในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

นางธนาภรณ์ กล่าวว่า จากเหตุพายุโซนร้อน “ปาบึก” เข้าพื้นที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคใต้มีฝนตกหนัก ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนคนพิการและครอบครัว ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก พก. จึงได้รวบรวมและส่งคณะเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ประกอบด้วย นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม และนิติกร จัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อผนึกความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมให้การช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้คนพิการและครอบครัวที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว

นางธนาภรณ์  กล่าวต่อว่า โดยจังหวัดในภาคใต้ที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติและเฝ้าระวังจากพายุโซนร้อนปาบึก รวมจำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ชุมพร พัทลุง ยะลา นราธิวาสและนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ณ วันที่ 6 มกราคม 2562) มีจำนวนคนพิการทั่วประเทศจำนวนกว่า 2 ล้านคน พบคนพิการในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัยดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 181,317 คน โดยจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคนพิการมากที่สุด จำนวน 49,784 คน รองลงมาคือจังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามลำดับ สำหรับ พก. มีหน่วยงานในสังกัดที่ได้รับผลกระทบคือ   ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีคนพิการที่อยู่ในความดูแล จำนวน 78 คน จึงได้ตั้งเป็นหน่วยรับขบวนรถบริจาคสิ่งของ ซึ่งคาดว่าขบวนรถจะถึงจุดหมายในช่วงเช้าของวันที่ 8 มกราคม 2562 พร้อมส่งมอบให้กับทางศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยปาบึก จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งต่อธารน้ำใจไปยังจุดต่างๆ ในพื้นที่ประสบภัย โดยการปล่อยขบวนรถในวันนี้ ได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นชุดสำเร็จพร้อมแจก ซึ่งนอกจากสิ่งของแล้ว พก. ยังได้จัดหาเก้าอี้สุขา จำนวน 200 ตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เพื่อให้การช่วยเหลือคนพิการและครอบครัวที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

นางธนาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า “พก. มีแผนการให้ความช่วยเหลือคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้แก่ 1) การลงพื้นที่ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา แนะนำและสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วยสิ่งของอุปโภคบริโภคในวันนี้  2) จัดตั้งศูนย์รับบริจาคและร่วมสนับสนุนสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เก้าอี้สุขาสำหรับคนพิการ และสิ่งของจำเป็นให้กับพื้นที่ประสบภัยและครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่ประสบภัย 3) การจ่ายเงินสงเคราะห์ให้กับคนพิการที่เดือดร้อนตามระเบียบของทางราชการ และ ระยะที่ 2 การช่วยเหลือในระยะปรับปรุงและพัฒนา ได้แก่ 1) กรณีเป็นลูกหนี้กู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จะได้รับการพักชำระหนี้เงินกู้เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีผลภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป  2) การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการที่ประสบภัยพิบัติและได้รับความเสียหาย 3) จัดทำโครงการรวมกลุ่มและฟื้นฟูอาชีพคนพิการและครอบครัวในชุมชน และ 4) เร่งปรับปรุงซ่อมแซมหน่วยงานในสังกัด พก. ที่ได้รับความเสียหายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการได้ต่อไป

“ดิฉันขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ร่วมสละแรงกายแรงใจ ด้วยความสามัคคี เสียสละ เอื้อเฟื้อต่อกันเพื่อร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึกในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พี่น้องคนพิการและประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค สามารถนำมาบริจาคได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) บ้านราชวิถี กรุงเทพมหานคร และ ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 354 3388 และ สายด่วน 1479” นางธนาภรณ์ กล่าวในตอนท้าย