จ.อุบลราชธานี จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ แปลง CLM “โคก หนอง นา พช.” อ.ม่วงสามสิบ พร้อมหนุนปลูกพืชสมุนไพร ขยายผลทั่วประเทศ

วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุรีรัตน์ กอเจริญยศ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พันเอกประสิทธ์ เติมชาติ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นายคมกริช ชินชนะ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี นางสาวปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัดอุบลราชธานี นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นักวิชาการพัฒนาชุมชนและเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายชินวัตร ทองปรีชา นายอำเภอม่วงสามสิบ นายขวัญ พฤกษติกุล พัฒนาการอำเภอม่วงสามสิบ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ผู้นำชุมชนและประชาชาชนจิตอาสา ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 พร้อมปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และพืชสมุนไพร เพื่อป้องกัน บรรเทาโรคโควิด-19 ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ณ แปลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้​ชุมชน​ต้นแบบการพัฒนา​คุณภาพ​ชีวิต​ระดับตำบล ​​(Community Lab Model for quality of Life : CLM) พื้นที่ 15 ไร่ ของแปลงนางผกาศรี นรบุตร บ้านไผ่ใหญ่ หมู่ที่ 10 ตำบลไผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยระหว่างดำเนินกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้ผ่านการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

โอกาสนี้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานในพิธีฯ ได้กล่าวน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และนำกล่าวคำปฏิญาณจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ โดยมีใจความสำคัญว่า “กระผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พันเอกประสิทธ์ เติมชาติ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 ผู้แทนภาคส่วนต่างๆ และประชาชนจิตอาสา ได้พร้อมใจกันด้วยความสมัครสมานสามัคคี จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ณ พื้นที่ 15 ไร่ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ของนางผกาศรี นรบุตร บ้านไผ่ใหญ่ หมู่ที่ 10 ตำบลไผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

ในวันนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขร่มเย็น รวมทั้งสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่างๆ ดังพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” กระทรวงมหาดไทยจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 เพื่อสร้างสำนึกด้านจิตสาธารณะและส่งเสริมด้านการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม และภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” โดยกรมการพัฒนาชุมชน กำหนดจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี พร้อมกันทั่วประเทศ โดยให้มีกิจกรรม Kick off ระดับจังหวัด พร้อมกันทุกจังหวัดในวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2564

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมขอชื่นชมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี และอำเภอม่วงสามสิบ ที่ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหา วชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะพัฒนาพื้นที่ไปเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา พช. ของอำเภอม่วงสามสิบ โดยกำหนดให้มีกิจกรรมการเอามื้อสามัคคีในพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นา นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พันเอกประสิทธ์ เติมชาติ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 ประชาชนและภาคส่วนราชการ เข้าร่วมในกิจกรรมปลูกพืชเลี้ยงดิน การห่มดิน ปลูกหญ้าแฝกอนุรักษ์ดิน อันเป็นแสดงออกถึงความจงรักภักดี การน้อมนำแนวทางพระราชดำริ มาปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและความร่วมมือ ร่วมใจกันทำความดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทน ในวโรกาสเดือนมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 นี้

จากนั้นประธานในพิธีฯ ได้นำผู้ร่วมกิจกรรมฯ เอามื้อสามัคคี ภายในแปลง CLM ของ นางผกาศรี นรบุตร โดยร่วมปลูกต้นไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ และไม้มงคล เช่น ต้นรวงผึ้ง ขนุน พะยูง มะพร้าวนำหอม และปลูกสมุนไพรพื้นบ้าน เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร ก่อนปล่อยปลาลงบ่อ และร่วมลงแขกดำนาอย่างเป็นกันเอง ซึ่งถือเป็นประเพณีดั้งเดิมของคนในชุมชนท้องถิ่น ที่แสดงออกถึงความรักสามัคคี และความช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาแต่ช้านาน ซึ่ง นางผกาศรี นรบุตร เจ้าของแปลง ได้แสดงความรู้สึกที่ได้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมโครงการฯ ในครั้งนี้ว่า “รู้สึกโชคดีและภาคภูมิใจมากที่ได้จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี และรับโอกาสจากกรมการพัฒนาชุมชนและการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ในการเข้าร่วมโครงการ “โคก หนอง นา พช.” จนได้เป็นตัวแทนของอำเภอในการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ในครั้งนี้ โดยเริ่มจากการเข้ารับการฝึกอบรมหลักกสิกรรมธรรมชาติ ทำให้ได้ความรู้ ได้เพื่อน และมีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ตนเองมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์เรียนรู้โคก หนอง นา และได้วางแผนให้เป็นศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่อีกด้วย” นางผกาศรี กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ขณะที่ นายคมกริช ชินชนะ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า “กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยการนำของ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รอบ 2 ในพื้นที่แปลงโคกหนองนา โดยปลูกผักสวนครัว ขิง ข่า ตะไคร้ กะเพรา โหระพา รวมถึงพืชสมุนไพร เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร มะกรูด มะนาว และพริก โดยเฉพาะการปลูกกระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร เพราะถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะ สารสกัดของกระชายขาว มีฤทธิ์สามารถต้านไวรัส ในระยะก่อนและหลัง ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้การรับรองแล้วว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่สามารถรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ฉะนั้นขอฝากให้ทุกคนได้ช่วยกันสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ให้เกิดความต่อเนื่อง ให้เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคต่างๆ ให้พี่น้องในชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี สามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์พืชสมุนไพร เพื่อต่อยอดไปยังพี่น้องคนไทยทั่วประเทศได้” พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวปิดท้าย

อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สพจ.อุบลราชธานี และ สพอ.ม่วงสามสิบ.. ภาพข่าว/รายงาน