ครม. มีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมาน และถูกบังคับให้หายสาบสูญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2561

วันที่ 2 ม.ค. 62 เวลา 9.00 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2561 ซึ่งสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้

การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 4 คณะ การกำหนดกระบวนงานการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ฯ การกำหนดแบบฟอร์มการรับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ การจัดทำระบบฐานข้อมูลการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ฯ การติดตามบุคคลหายสาบสูญตามบัญชีรายชื่อบุคคลหายสาบสูญของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับหรือไม่สมัครใจ (UN Working Group on Enforced or Involuntary Disappearance – UNWGEID) จำนวน 86 กรณี การตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมาน การตรวจสอบข้อมูลการเยียวยาบุคคลที่ถูกบังคับให้หายสาบสูญ การกำหนดหลักเกณฑ์ การเผยแพร่ความรู้ด้านกลไกการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ การหารือหน่วยงานนำร่องเกี่ยวกับการจัดทำข้อตกลงและมาตรการเพื่อป้องกัน การกระทำทรมานและการบังคับให้หายสาบสูญ การลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทรมานระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและองค์กร Association for the Prevention of Torture (APT) เพื่อพัฒนาคู่มือการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกัน รวมทั้งการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ UNWGEID เกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติงานของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (Methods of work of the UNWGEID) การตรวจสอบข้อมูลการลงพื้นที่ และการประมวลข้อมูลเพื่อถอนบัญชีรายชื่อบุคคลสูญหายออกจากบัญชีรายชื่อบุคคลหายสาบสูญของ UNWGEID

ทั้งนี้ การจัดตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ให้กระทรวงยุติธรรมจัดตั้งกลไกในรูปแบบคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกกลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์กรณีทรมานและการบังคับบุคคลให้หายสาบสูญ เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองสิทธิให้กับประชาชนในขณะที่ยังไม่มีกฎหมายภายในใช้บังคับเป็นการเฉพาะ