เข้มข้น! พช.ตระการพืชผล ปูพรมติดตามสนับสนุน “โคก หนอง นา พช.” จ.อุบลราชธานี พร้อมพัฒนาพื้นที่เพื่อปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ป้องกัน บรรเทาโรคโควิด-19

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ภายใต้การอำนวยการของ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ นายช่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” พร้อมพัฒนาพื้นที่เพื่อปลูกผักสวนครัว และพืชสมุนไพร ในพื้นที่อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับการลงพื้นที่ของอำเภอตระการพืชผลในครั้งนี้ ได้ติดตามสนับสนุนการพัฒนา​พื้นที่ศูนย์​เรียนรู้​การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) ตามโครงการ​พัฒนา​พื้นที่​ต้นแบบ​การพัฒนา​คุณภาพ​ชีวิต​ ตา​มหลัก​ทฤษฎี​ใหม่​ ประยุกต์​สู่​ “โคก​ หนอง​ นา พช.” ในพื้นที่ 17 แห่ง ในพื้นที่ตำบลท่าหลวง​ ตำบลกระเดียน​ ตำบลห้วยฝ้าย​ ตำบลตากแดด​ และตำบลคอนสาย ประกอบด้วย

1)นายอำนวยศิลป์ อังคะเว พื้นที่ 1 ไร่​ แบบ​ 1:1 ดินร่วนปนทราย

2)นางอุดม หอมจำปา พื้นที่ 1 ไร่ แบบ​ 1:1 ดินร่วนปนทราย

3)นายคำภา สมพล พื้นที่ 3 ไร่ แบบ​ 2:3 ดินทราย

4)นายปรเมศ ทันธิมา พื้นที่ 1 ไร่ แบบ 1:1 ดินร่วนปนทราย

5)น.ส.สายพิณ สายสิทธิ์ พื้นที่ 1 ไร่ แบบ​ 1:1​ ดินร่วนปนทราย

6)นายทองแดง มาโพธิ์ พื้นที่ 1 ไร่ แบบ​ 1:1 ดินร่วนปนทราย

7)นางแพงศรี บุตรจันทร์ พื้นที่ 1 ไร่ 1:1 ดินร่วนปนทราย

8)น.ส.บัวไข ทองหยิบ พื้นที่ 1 ไร่ แบบ ​1:1 ดินร่วนปนทราย

9)นางอรพรรณ โพธิ์ทอง พื้นที่​ 2 ไร่​ แบบ 2:3 ดินทราย

10)นางประยี่ แพงโสม พื้นที่ 3​ ไร่ แบบ 2:3 ดินทราย

11)นางเกยูร พืชหมอ พื้นที่ 3ไร่ แบบ 2:3 ดินทราย

12)นายจีระศักดิ์ พิมพ์สาร พื้นที่ 1 ไร่ แบบ 1:1 ดินร่วนปนทราย

13)นางลำไพ บรรประสาร พื้นที่ 1ไร่ แบบ 1:1 ดินร่วนปนทราย

14)นางอรุณ กิ่งสน พื้นที่ 1 ไร่ แบบ 1:1 ดินร่วนปนทราย

15)นางสมศรี ยุทธภิญโญ พื้นที่ 1 ไร่ แบบ 1:1​ ดินร่วนปนทราย

16)นายสุนทร พืชหมอ พื้นที่ 3 ไร่ แบบ 2:3 ดินทราย

17)นางประมูล ทวีทรัพย์ พื้นที่​ 3 ไร่ รูปแบบ 2:3 โด

ยคณะตรวจติดตามฯ ได้พบปะและให้คำแนะนำเจ้าของแปลง ในการวางแผนเพื่อจัดกิจกรรมขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ และจัดกิจกรรมเครือข่ายการเรียนรู้แก่ชุมชนผ่านการเอามื้อสามัคคีในแปลงที่ดำเนินการขุดปรับพื้นที่แล้ว นอกจากนั้น ยังได้ให้คำแนะนำและห่วงใยพื้นที่แปลง ถึงแม้การพัฒนาพื้นที่จะดำเนินตามแบบโคกหนองนา และแนวทางมาตฐานกรมฯ แต่เนื่องจากฝนที่ตกอย่างหนักในช่วงนี้ จึงขอให้ครัวเรือนต้นแบบได้นำพืชมาปลูกบริเวณคันดินและดำเนินการคลุมดิน เพื่อให้คันดินยึดกันได้ดีขึ้น พร้อมพัฒนาพื้นที่เพื่อปลูกผักสวนครัว และพืชสมุนไพร เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร เพื่อป้องกันและบรรเทาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงแนะนำให้จัดทำแผนและวางแผนการจัดกิจกรรมเครือข่ายเอามื้อสามัคคีต่อไปด้วย

ซึ่งเจ้าของแปลงฯ ต่างก็ดีใจและมีความสุขมากที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมขอบคุณภาครัฐ ที่มาช่วยชีวิตให้มีความอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี เพราะพื้นที่ทำกิน แต่ละแห่งถือเป็นชีวิตจิตใจในการเลี้ยงชีพ ซึ่งแต่เดิมในการทำเกษตรนั้น ต้องพึ่งน้ำฝนตามฤดูกาล บางปีฝนทิ้งช่วงไม่มีน้ำทำการเกษตร เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ จึงมีความเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 5 ปี ต่อจากนี้ เช่น คันทองคำ ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ตลอดจนการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และพืชสมุนไพร เช่น กระชาย และฟ้าทลายโจร เพื่อป้องกันและบรรเทาโรคโควิด-12 ก่อนขยายผลให้เป็นครัวเรือนตัวอย่างและศูนย์เรียนรู้ในชุมชน ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมเยือน รวมถึงรัฐบาล กรมการพัฒนาชุมชน จังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยเหลือและสนับสนุนพี่น้องประชาชน ในยามที่กำลังประสบปัญหาจากภัยโควิด-19 ในขณะนี้

ขณะที่ นางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล ได้พบปะกับเจ้าของแปลงครัวเรือนพัฒนา และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) พร้อมชื่นชมแปลงที่ดำเนินการได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยว่า “ถือว่าทุกท่านโชคดี ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากโครงการฯ ในครั้งนี้ ซึ่งเกิดจากแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 สืบสาน รักษา และต่อยอด สู่รัชกาลที่ 10 การยึดหลักกสิกรรมธรรมชาติในการพัฒนาพื้นที่ หากเจ้าของแปลงหรือนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) มีเหตุขัดข้องหรือข้อสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยทันที เพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน อันจะทำให้โครงการฯ สามารถดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนโดยเร็ว มีแปลงตัวอย่างที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบแก่คนในพื้นที่ สามารถการพึ่งตนเองให้รู้จักสร้างทางรอดในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ต่อไป”

พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า “กรมการพัฒนชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รอบ 2 ตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน ในพื้นที่แปลงโดยปลูกผักสวนครัว เช่น กล้วย 5 หน่อ มะละกอ 5 ต้น พืชสวนครัว อื่นๆ โดยเฉพาะ ขิง ตะไคร้ กะเพรา โหระพา บวบ รวมถึงพืชสมุนไพร เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว กะเพรา โหระพา และพริก โดยเฉพาะการปลูกกระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร เพราะถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้ โดยพบว่าสารสกัดของกระชายขาว สามารถแสดงฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อนอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้การรับรองแล้วว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่สามารถรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ โดยให้รับประทานฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ วันละ 180 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 วัน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่าสมุนไพรไทยมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายจนทั่วโลกให้การยอมรับ จึงเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่สามารถนำมาช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนรอดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ ขอฝากให้ทุกท่านได้ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านอาหารด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ให้เกิดความต่อเนื่อง ให้เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคต่างๆ หลายโรค รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน และความรักห่วงใยพี่น้องประชาชน จากท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน” นางคำประไพ กล่าวปิดท้าย

อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สพจ.อุบลราชธานี และ สพอ.ตระการพืชผล.. ภาพข่าว/รายงาน