วธ.เข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ดูแลบุคลากรทั่วประเทศ ขอความร่วมมือ work from home และฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด

นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงทวีความรุนแรงในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละวัน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานรัฐมนตรี โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตราที่ 21 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นางยุพา กล่าวต่อไปว่า สำหรับเนื้อหาพอสังเขป คือ กำหนดแนวทางให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปลัดวธ. และสำนักงานรัฐมนตรีปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (work from home)  ดังนี้

1.ให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ) และวธ.อย่างเคร่งครัด

2.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการให้ยึดแนวทาง ศบค. และไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชน โดยให้บุคลากรจ้างเหมา และข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการลงไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

ต่อมาวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรมฯ (แก้ไขเพิ่มเติม) ให้บุคลากรระดับชำนาญการพิเศษสลับมาปฏิบัติงานตามความจำเป็น งานเร่งด่วน และให้ work from home ทั้งหมด ในวันอังคารและพฤหัสบดีรวมทั้งให้บุคลากรตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกองขึ้นไปมาปฏิบัติงาน ณ ส่วนราชการตามปกติ โดยให้ work from home ในวันอังคารและพฤหัสบดี ยกเว้นหากมีภารกิจเร่งด่วน โดยให้ผู้อำนวยการกองมาปฏิบัติงานกำกับดูแลความเรียบร้อย 1 คน และจัดเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติหน้าที่รับ-ส่งเอกสาร จำนวน 2 คนในวันดังกล่าว ในส่วนของกองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน หากมีภารกิจที่ต้องดำเนินการตามหมายรับสั่ง ให้มอบหมายเจ้าที่มาปฏิบัติงานทันที ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ปลัดวธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ยังได้ออกประกาศ วธ. เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีเนื้อหาพอสังเขป ดังนี้ ขอให้ผู้ปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของ ศบค. อย่างเคร่งครัด อาทิ สวมหน้ากากอนามัย งดเว้นการรับประทานอาหารและน้ำดื่มร่วมกัน หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่หนาแน่นโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามหมายรับสั่ง มีการรักษาระยะห่าง เข้ารับวัคซีนให้ครบตามที่กำหนด ผู้ไม่มีหน้าที่ปฏิบัติงานให้ work from home กรณีพบผู้ติดเชื้อ ให้ผู้ใกล้ชิดหรือสัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อและกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน หากมีบุคลากรไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ให้ขอรับการสนับสนุนจากลุ่มอำนวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานที่อยู่ใกล้เคียง ทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้งาน สถานที่ทำงาน หากพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากให้พิจารณา  ปิดสถานที่ทำการชั่วคราว โดยให้ผู้อำนวยการกองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานและวัฒนธรรมจังหวัด กำกับดูแล ให้คำปรึกษา เป็นต้น

“ทางด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ฝากความห่วงใยมายังบุคลากรทุกคนของกระทรวงวัฒนธรรมทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ขอให้ผู้บริหารทุกหน่วยงานดูแลบุคลากรในสังกัดอย่างเต็มที่ ในเรื่อง work from home ให้พิจารณาตามความเหมาะสมของจังหวัดนั้นๆ ที่สำคัญให้มีการฉีดวัคซีนให้กับผู้ปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่พิธีการศพที่ได้รับพระราชทานทั่วประเทศ ขอเน้นย้ำว่าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดใดที่บุคลากรและเจ้าหน้าที่พิธีการศพที่ได้รับพระราชทานยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ขอให้สำรวจตัวเลขแล้วแจ้งมายังส่วนกลาง เพื่อเร่งประสานกระทรวงมหาดไทยและ สธ. ขอให้จัดสรรวัคซีนให้กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนั้น ๆ ต่อไป” ปลัดวธ. กล่าว