กรมการขนส่งทางรางออกมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ฉบับที่ 10

นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยหลังออกประกาศกรมการขนส่งทางรางเรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ฉบับที่ 10 ว่าตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 27) ได้มีข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันและยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ทวีความรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าวกรมการขนส่งทางรางจึงออกประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบถือปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้

1. ลดหรือจำกัดรอบการให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พร้อมทั้งกำหนดตารางการเดินรถที่มีความชัดเจน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วกัน เพื่องดการเดินทางของประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยกเว้นแก่บุคคลตามที่ระบุในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ข้อ 4 และข้อ 5

2. การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ให้กำหนดแผนปฏิบัติงานอันคำนึงถึงความปลอดภัยต่อระบบการเดินรถเท่าที่จำเป็น และมีมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัดสูงสุด ดังนี้

2.1 ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติงานของหน่วยงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

2.2 ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทางสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สิ่งพิมพ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณีย์ การขนส่งพัสดุภัณฑ์ สินค้าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า การขนย้ายประชาชนไปยังที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

3. จำกัดการบริการระบบรถไฟโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีการบริการเดินรถเท่าที่จำเป็น ระหว่างวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2564

4. บริหารจัดการไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดของผู้โดยสารภายในขบวนรถและภายในสถานี เพื่อให้ปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลได้อย่างเคร่งครัด โดยให้มีการปฏิบัติมาตรการตามความเหมาะสม เช่น การดำเนินมาตรการ Group Release ภายในสถานี และ การเพิ่มขบวนรถเสริมหรือเพิ่มความถี่การบริการในช่วงเวลาเร่งด่วน เป็นต้น

5. กำกับดูแล ตรวจติดตาม และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (D – Distancing) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยและงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง (M – Mask Wearing) ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อเข้าและออกจากระบบ (H – Hand Washing) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง (T – Testing) และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ (T – Thaichana)

6. ให้มีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อฯ เชิงรุก ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างภายในพื้นที่โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

***********************************************

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมการขนส่งทางราง (ขร.)
โทรศัพท์ 0 2164 2607 Website www.drt.go.th