ปคบ. – อย. ทลายโรงงานลักลอบผลิตเครื่องสำอางเถื่อน ย่านบางมด

วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา, พ.ต.อ.ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ, พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลง ผลการปฏิบัติ กรณีจับกุมผู้ลักลอบผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต

สืบเนื่องจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีประกาศเรื่อง ผลการตรวจสอบหรือวิเคราะห์เครื่องสำอางที่พบสารห้ามใช้ กรณีครีมสมุนไพรสาหร่าย ยี่ห้อ MEIYONG (ครีมตลับสีขาว ฝาสีน้ำเงิน ทาก่อนนอน) ตรวจพบสารไฮโดรควิโนนและกรดเรทิโนอิก , ครีมสมุนไพรสาหร่าย ยี่ห้อ MEIYONG (ครีมตลับสีขาว ฝาสีเขียว ทาเช้า – ก่อนนอน) ตรวจพบสารประกอบของปรอท ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ กฎหมายกำหนดโทษสำหรับผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้นำเข้าเพื่อขาย และผู้ขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ปรากฏว่ายังพบผู้ลักลอบผลิตเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวออกมาจำหน่ายในท้องตลอด จึงได้ประสาน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สืบสวนหาแหล่งผลิตและตัวผู้กระทำความผิดต่อไป

ต่อมา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สืบสวนจนทราบแหล่งผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ จึงได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นบ้านพัก ย่านแขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง ประเภทครีม จำนวนหลายยี่ห้อ เช่น ครีมสมุนไพรมะระ ยี่ห้อ Kissing , ครีมขมิ้นเฮอร์เบิล , ครีมสมุนไพรบ้านตะวัน , ครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อเลนาว , พีแคร์ครีม สมุนไพรขิง , ครีมไข่มุกผสมบัวหิมะ และพบเครื่องจักร , อุปกรณ์ในการผลิตครีม จำนวนหลายรายการ ตรวจสอบพบว่าครีมดังกล่าว ไม่ได้ขออนุญาตในการผลิตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จัดเป็นเครื่องสำอางปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงาสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบพบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางที่สงสัยว่ามีวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง (เครื่องสำอางที่เคยประกาศผลวิเคราะห์แล้ว)” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางไม่จดแจ้ง” มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากไม่ถูกต้อง” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งที่น่าเชื่อถือ และมีหลักฐานการซื้อขายที่ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ขายอย่างชัดเจน และแจ้งเตือนผู้ที่กำลังกระทำความผิด ลักลอบผลิตและจำหน่าย เครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที ถ้าตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด 19 ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัย จึงได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเร่งรัดดำเนินการเพื่อคุ้มครองประชาชน สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถยึดวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องสำอาง ยาสเตียรอยด์ที่ลักลอบใส่ในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของกลางได้เป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้เป็นเครื่องสำอางที่ อย. เคยตรวจพบสารห้ามใช้จำพวก สเตียรอยด์ สารปรอท สารไฮโดรควิโนน กรดเรทิโนอิก ซึ่ง อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทลายแหล่งลักลอบผลิตและจำหน่ายพร้อมแจ้งเตือนประชาชนอยู่หลายครั้ง เช่น ครีมเหมยหยง ครีมโสมผสมบัวหิมะ ครีมประทินผิวฝาน้ำเงิน ฝาน้ำตาล เป็นต้น

เครื่องสำอางเหล่านี้มักขายทางตลาดนัด ร้านเช่าในห้างสรรพสินค้า หรือช่องทางออนไลน์ จึงขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่าซื้อเพียงเพราะหลงเชื่อคำโฆษณาว่า เครื่องสำอางนี้ช่วยรักษาสิว ฝ้า กระ รอยดำลดลง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ให้ผลเร็ว เพราะมักพบว่า มีการลักลอบใส่สารห้ามใช้ ซึ่งเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง จากผิวที่ดูขาวจะกลายเป็นดำคล้ำ เป็นฝ้าถาวร หรือรอยแผลเป็นถาวร ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ก่อนซื้อขอให้ตรวจสอบเลขที่จดแจ้งและติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือ ไลน์ @fdathai หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556

************************************
วันที่เผยแพร่ข่าว 8 กรกฎาคม 2564 แถลงข่าว 33 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
“การแถลงข่าวในครั้งนี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน”
ข้อมูล https://bit.ly/2VaiKDa