สธ.จัดรถตรวจเชื้อและวัคซีนโควิดดูแลผู้อพยพโรงงานระเบิด ที่สมุทรปราการ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจผู้ประสบภัยโรงงานระเบิดที่ศูนย์อพยพวัดบางพลีใหญ่กลาง จัดรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานและวัคซีนโควิด 1 พันโดสเข้าดูแล ส่งทีมสุขภาพจิตเยียวยาจิตใจและติดตามการปรับตัวในช่วง 1-3 เดือนหลังเกิดเหตุ

วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ที่ จ.สมุทรปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ลงพื้นที่ศูนย์อพยพโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด 19 วัดบางพลีใหญ่กลาง และโรงพยาบาลบางพลี เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจผู้ประสบภัยเหตุโรงงานระเบิดและไฟไหม้ ย่านถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดอาคารของโรงเรียนเป็นศูนย์อพยพให้แก่ผู้ประสบภัยโรงงานระเบิด มีประชาชนนำสิ่งของมาช่วยเหลือ วันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยมาประจำเพื่อตรวจประชาชน หากพบการติดเชื้อก็จะส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลต่อไป และจัดวัคซีนโควิด 19 จำนวน 1 พันโดส เพื่อควบคุมการระบาด มาฉีดให้แก่ผู้ประสบภัยและบริเวณโดยรอบ เนื่องจากบริเวณนี้ยังมีการระบาด นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตได้ส่งทีมสุขภาพจิตเข้ามาดูแลเยียวยาจิตใจประชาชน กรมอนามัยดูแลเรื่องสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ และเรื่องอุปโภคบริโภค

นายอนุทินกล่าวต่อว่า จากการวัดมลพิษบริเวณศูนย์อพยพพบว่าในระยะรัศมี 1 กิโลเมตรยังมีค่าความเข้มข้นของสาร สไตรีนโมโนเมอร์ 1 พัน ppm  ในระยะ 3 กิโลเมตร ประมาณ 86 ppm และระยะ 5 กิโลเมตร ประมาณ 51 ppm ซึ่งยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่คาดว่าประมาณ 2-3 วันน่าจะดีขึ้น หากไม่มีการปะทุขึ้นมาใหม่ ผู้อพยพน่าจะเดินทางกลับได้ วันนี้ก็มีหลายครอบครัวกลับไป อย่างศูนย์อพยพ 7 แห่ง ตอนนี้เหลือประมาณ 3-4 แห่ง

สำหรับการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย จากการสูดควันร้อน และเขม่าเข้าไป ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลสมุทรปราการ และ โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ ผู้ป่วยจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก 6 ราย และเป็นแผลเล็กน้อย 34 ราย กลับบ้านได้ และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นอาสาสมัครดับเพลิง นอกจากนี้ จะมีการติดตามเฝ้าระวังคัดกรองอาการผู้อพยพและผู้ปฏิบัติดับเพลิงด้วย

ด้านสุขภาพจิตขณะนี้ได้ส่งทีมสุขภาพจิตทั้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 จ.ชลบุรี และโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการประเมินสุขภาพจิตของผู้อพยพเพื่อประเมินความเครียด ซึมเศร้า และความเสี่ยงการฆ่าตัวตาย หากพบความเสี่ยงจะดูแลรักษา และหลังจากนี้ 1 สัปดาห์จะติดตามต่อเนื่องอีก 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่พ้นความตระหนกตกใจเข้าสู่ระยะของการปรับตัว หากไม่สามารถปรับตัวได้ เช่น มีความตึงเครียด อ่อนล้า อารมณ์เปลี่ยนแปลง ก็จะให้การดูแลรักษา

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังศูนย์อพยพ ดังนี้ 1.หน้ากากอนามัย 60,000  ชิ้น 2.เจลแอลกอฮอล์ 1,000 ชิ้น 3.โจ๊ก  100 ลัง 9,600ชิ้น 4.สบู่  100 ลัง 9,600 ชิ้น 5.นมถั่วเหลือง 50 ลัง 1,800 กล่อง 6.น้ำดื่ม 1.5 ลิตร 50 แพ็ค รวม 300 ขวด 7.ข้าวสาร 1 กิโลกรัม 100 ถุง 8.หน้ากากอนามัย N95 จำนวน  6,000 ชิ้น 9.Coverall Level 2 จำนวน 2,000 ชุด 10.Disposable Isolation Gown 6,000 ชุด 11.Face Shield 6,000 ชิ้น 12.ถุงมือไนไตร 6,000 คู่ 13.ถุงมือยาง 6,000 คู่ 14.หมวกคลุมผม 6,000 ชิ้น และ 15.Shoe Cover 6,000 คู่

……………………………….