“สถานการณ์โควิด-19 กรมราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชื้อรักษาหายกว่า 93% การระบาดพื้นที่ กทม. ดีขึ้นต่อเนื่อง เข้ม ทุกเรือนจำเตรียมแผนเผชิญเหตุ-ป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด”

วันที่ 2 กรกฎาคม เวลา 16.00 นาฬิกา นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 36/2564 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และห้องประชุม 1 ชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เผย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบรักษาหายสะสมกว่า 93% ชี้การระบาดพื้นที่ กทม. มีผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาต่ำกว่า 2 พันราย และดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมสั่งการทุกเรือนจำ/ทัณฑสถานเตรียมแผนเผชิญเหตุ

นายวัลลภฯ เปิดเผยว่า สถิติผู้ติดเชื้อของกรมราชทัณฑ์ ปัจจุบัน มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดจำนวน 124 แห่ง ลดลงจากเดิม 1 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ส่งผลให้เรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว 33,791 ราย หรือกว่า 93% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ทั้งสิ้น 2,314 ราย ซึ่งยังคงต่ำกว่า 3 พันรายต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีผู้ติดเชื่อที่ยังรักษาอยู่ 1,712 ราย ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตสะสม 43 ราย หรือ 0.1% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์ขณะนี้ พบว่า ผู้ติดเชื้อระหว่างรักษาของพื้นที่กรุงเทพมหานครเริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยผู้ติดเชื้อที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว ซึ่งคาดว่าจะหายเพิ่มอีกกว่า 1 พันราย ในช่วงต้นเดือนนี้ สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครจึงน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ยังคงพบผู้ติดเชื้อใหม่ต่อเนื่องในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างควบคุมสถานการณ์และมีการบริหารจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบ สำหรับเรือนจำสีแดงใหม่ 1 แห่ง คือเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น ได้ดำเนินการสอบสวนโรคและแยกกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ต้องขังรายอื่นเป็นที่เรียบร้อย โดยทางกรมราชทัณฑ์ ได้สนับสนุนยา เวชภัณฑ์ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์เพื่อเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว

นายวัลลภฯ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ได้สั่งการให้เรือนจำ/ทัณฑสถานทุกแห่งเตรียมแผนการเผชิญเหตุ รวมทั้งจัดเตรียมพื้นที่ในการจัดทำโรงพยาบาลสนามเรือนจำ กรณีที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ได้ตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์ โดยเฉพาะภายนอกที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรือนจำ/ทัณฑสถานมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ โดยเฉพาะผู้ต้องขังรับใหม่ที่ต้องกักตัวอย่างเคร่งครัด 100% และในส่วนของเจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้ออย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะในสถานที่ทำงาน หรือภายในที่พัก งดเข้าพื้นที่เสี่ยง สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ และหมั่นล้างมือ งดรับประทานอาหารร่วมกัน

ด้านการจัดสรรวัคซีนของกรมราชทัณฑ์ ขณะนี้ ได้รับวัคซีนมาแล้วทั้งสิ้น 76,877 โดส เป็นวัคซีนจากการจัดสรรของกรมควบคุมโรค 60,000 โดส และเป็นวัคซีนที่จัดสรรเพิ่มนอกแผน รวมถึงวัคซีนจากแหล่งอื่นรวม 16,877 โดส ซึ่งได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว ทั้งเข็มแรกและเข็มที่ 2 รวม 45 แห่ง และในส่วนของการดำเนินการต่อจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติม เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่อื่นๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2564 ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขณะที่เยาวชนหายป่วยแล้วทั้ง 3 ราย คงเหลือสถานะเจ้าหน้าที่รักษาตัวอยู่ 1 ราย รวมหายป่วยแล้วทั้งสิ้น 92 ราย จากทั้งหมด 93 ราย หรือคิดเป็น 98% ขณะที่สถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีสถานะรวม 39 แห่ง หรือคิดเป็น 70% จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 17 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและ รอผล 7 แห่ง หมดสถานะ 5 แห่ง และติดเชื้อ 5 แห่ง ด้านสถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน ยังคงที่ที่จำนวน 106 ราย จากทั้งหมด 4,371 ราย หรือคิดเป็น 2.4% ขณะที่แน้วโน้มการฉีดวัคซีนของเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 3,187 ราย หรือ 72% ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4,410 ราย ทั้งนี้ กรมพินิจฯ ได้เร่งประสานงานและดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดรับวัคซีนให้ครบทุกคน พร้อมทั้งจัดทำแนวทางหรือมาตรการในการยกระดับการปฏิบัติงานของพนักงานพินิจหรือการจัดเวรในศูนย์ฝึกและอบรมฯ และสถานพินิจฯ ที่อยู่ในสถานะสีเหลือง เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานที่ควบคุมต่อไป

****************************