เลื่อนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี กรณี ครอบครัวปู่หลานชาวจังหวัดน่านถูกยึดบ้านขายทอดตลาด

ตามที่มีข่าวนางสาวรัตนา ธะนะคำ ร้องกรณีถูกยึดบ้านและที่ดินมรดกออกขายทอดตลาด ทั้งที่ไม่ใช่ลูกหนี้ ส่อมีส่งซิกคนซื้อในการขายทอดตลาดเพื่อโก่งราคาขายคืนฟันกำไร ซึ่งนางสาวรัตนามีความประสงค์ที่จะขอซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืน กรมบังคับคดีได้เข้าช่วยเหลือโดยการประสานผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อเจรจาหาข้อตกลงร่วมกันโดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นั้น

นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีของศาลล้มละลาย หมายเลขแดงที่ ล.๑๔๕๑/๒๕๕๗ โดยบ้านและที่ดินพิพาทตามที่เป็นข่าวมีชื่อนายสุวรรณ คำซอน จำเลยที่ ๒ ในคดีล้มละลายเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และจำนองไว้กับเจ้าหนี้รายหนึ่งในคดีล้มละลาย ต่อมาเจ้าหนี้รายดังกล่าวได้ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดและนำออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ปรากฏหลักฐานในโฉนดที่ดินว่า นางสาวรัตนา ธะนะคำ เคยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ได้จดทะเบียนขายให้กับจำเลยที่ ๒ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๕ แต่เมื่อได้ยึดบ้านและที่ดินพิพาทดังกล่าว นางสาวรัตนาได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าบ้านและที่ดินพิพาทเป็นของตนไม่ใช่ของจำเลยที่ ๒ และขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ปล่อยทรัพย์จากการยึด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สอบสวนข้อเท็จจริงและมีคำสั่งไม่ปล่อยทรัพย์ที่ยึด นางสาวรัตนาจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาล

ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าบ้านและที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ ๒ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงจำต้องยึดและขายทอดตลาดทรัพย์บ้านและที่ดินพิพาทตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยในการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีการประกาศให้แก่บุคคลทั่วไปได้ทราบพร้อมทั้งติดประกาศตามสถานที่ราชการและลงประกาศลงในเว็บไซต์เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้ กรมบังคับคดีขอยืนยันว่าการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีเป็นการขายโดยเปิดเผย และเป็นการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งต่าง ๆ แล้ว หาได้เป็นการส่งซิกกับคนซื้อเพื่อให้เกิดการโก่งราคาขายคืนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ส่วนการช่วยเหลือนางสาวรัตนาที่มีความประสงค์จะขอซื้อบ้านและที่ดินพิพาทคืน โดยกรมบังคับคดีได้ประสานผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อเจรจาหาข้อตกลงร่วมกันโดยนัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ นั้น ซึ่งผลการไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างกัน โดยได้เลื่อนการเจรจาออกไปอีกในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. อย่างไรก็ตามการ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดีเป็นเพียงคนกลางในการจัดให้มีการเจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างคู่กรณีเพื่อยุติข้อพิพาทด้วยความสมานฉันท์จากความสมัครใจของทุกฝ่าย ซึ่งกรมบังคับคดีไม่สามารถบังคับให้เกิดข้อตกลงใด ๆ ที่ปราศจากความสมัครใจและความยินยอมของคู่กรณีได้ กรมบังคับคดี ๐ ๒๘๘๑ ๔๙๙๙ หรือสายด่วนกรมบังคับคดี ๑๑๑๑ กด ๗๙ เว็บไซต์ www.led.go.th