“สถานการณ์โควิด-19 กรมราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชื้อรักษาหายแล้ว 91% พร้อมลดสถานะเรือนจำสีแดงลง 3 แห่ง ชี้ สถานการณ์พื้นที่ กทม. ดีขึ้น”

วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลา 09.30 น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 35/2564 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ฯ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และห้องประชุม 1 ชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เผย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน มีผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาอยู่ต่ำกว่า 3 พันราย รักษาหายสะสมแล้ว 91% พบการระบาดพื้นที่กทม.ดีขึ้น พร้อมลดสถานะเรือนจำสีแดงลง 3 แห่ง เร่งส่งทีมช่วยเหลือเรือนจำระบาดใหม่

นายวัลลภฯ กล่าวว่า สถิติผู้ติดเชื้อของกรมราชทัณฑ์ ปัจจุบัน มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดจำนวน 125 แห่ง ขณะที่เรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดคงเหลือ 9 แห่ง ลดลง 3 แห่ง เนื่องจากไม่มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำ/ทัณฑสถานแล้ว คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำกลางบางขวาง และทัณฑสถานหญิงธนบุรี โดยมีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว 32,954 ราย หรือ 91% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ทั้งสิ้น 2,921 ราย ซึ่งต่ำกว่า 3 พันรายต่อเนื่องเป็นวันที่สองเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 2,465 ราย หรือ 84.3% สีเหลือง 436 ราย หรือ 15% และสีแดง 20 ราย หรือ 0.7% และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมสะสม 41 ราย หรือ 0.1% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

โดยแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์ขณะนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงและได้รับการรักษาหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ซึ่งคาดว่าจะหายเกือบทั้งหมดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ยังมีการแพร่ระบาดเพิ่มใน 4 แห่ง คือเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา ที่ยังตรวจพบเชื้อในผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้น ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำเพื่อรองรับกลุ่มผู้ติดเชื้อ และคัดแยกกลุ่มผู้ติดเชื้อพร้อมทั้งกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ต้องขังกลุ่มอื่น รวมถึงการจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทาน การสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์เพื่อเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

นายวัลลภฯ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ได้เน้นย้ำให้เรือนจำ/ทัณฑสถานทุกแห่ง บริหารจัดการพื้นที่เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ภายใต้กรอบการดำเนินการ 4 อย่าง คือ การป้องกันไม่ให้นำเชื้อจากภายนอกเข้าภายใน การค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและดีที่สุด การป้องกันไม่ให้นำเชื้อจากเรือนจำที่แพร่ระบาดออกสู่ภายนอก และการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง โดยในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของภายนอกที่ยังคงขยายเป็นวงกว้าง การป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานจึงนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำเชื้อเข้าสู่ภายใน ที่อาจจะถูกนำเข้าผ่านเจ้าหน้าที่และครอบครัว จึงต้องระมัดระวังตัวเองไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อลดความเสี่ยงที่จะนำเชื้อเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่ต้องดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องขอให้เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อลดโอกาสที่เชื้อจะถูกนำเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานให้มากที่สุด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 ยังคงที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขณะที่สถานะผู้ป่วยทั้งหมดลดเหลือ 4 คน เป็นเยาวชน 3 คน และเจ้าหน้าที่ 1 คน รวมหายป่วยแล้ว 88 คน จากผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 93 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 95 ของผู้ป่วยสะสมทั้งหมด ขณะที่สถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีสถานะรวม 36 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง โดยอีก 20 แห่งนั้นอยู่ระหว่างรอตรวจและรอผล 8 แห่ง หมดสถานะสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว 7 แห่ง และติดเชื้อ 5 แห่ง ด้านสถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน ยังคงที่ที่จำนวน 106 คน จากทั้งหมด 4,394 คน หรือร้อยละ 2.41 ขณะที่แน้วโน้มการฉีดวัคซีนของเจ้าหน้าที่สูงขึ้นเป็นจำนวน 3,031 คน จากทั้งหมดจำนวน 4,417 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 68.62 ทั้งนี้กรมพินิจฯ ยังคงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานที่ไม่มีความจำเป็นเข้าไปในสถานที่ควบคุมลดการเข้าออกภายในเขตควบคุม พร้อมทั้งเข้มงวดในการดูแลตนเอง เว้นระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ พร้อมทั้งทบทวนการดำเนินงานและแผนเผชิญเหตุเพื่อให้หน่วยงานปราศจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ต่อไป

*****************************************