กรมควบคุมโรค เผยแนวทางการจัดเก็บและขนส่งวัคซีนโควิด 19 เป็นไปตามมาตรฐานสากล

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางการจัดเก็บและขนส่งวัคซีนโควิด 19 เป็นไปตามมาตรฐานสากล (องค์การอนามัยโลก) โดยวัคซีน CoronaVac ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค เป็นยาน้ำแขวนตะกอนขาวขุ่น จึงต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนใช้ และต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น หากหน่วยบริการ พบปัญหาหรือความผิดปกติของวัคซีนให้แจ้งประสานมายังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือกรมควบคุมโรค เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง แจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีน CoronaVac ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) ที่ส่งถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการตรวจพบก่อนที่จะนำมาฉีดให้กับประชาชน โดยผลการตรวจสอบพบว่า วัคซีนดังกล่าวมีลักษณะของสารละลายรวมตัวเป็นเจลใสติดบริเวณด้านในของขวดวัคซีน และเจลดังกล่าว ไม่หายไปหลังการเขย่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการของวัคซีน CoronaVac รุ่นการผลิตดังกล่าว มีลักษณะทางกายภาพที่ปกติ

กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า วัคซีน CoronaVac เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine) มีลักษณะเป็นยาน้ำแขวนตะกอนขาวขุ่น อาจมีตะกอนสะสมเป็นชั้นอยู่ด้านล่างขวด จึงต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนใช้รวมทั้งต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น การเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสหรือติดลบ จะทำให้วัคซีนเสื่อมสภาพและไม่สามารถนำไปฉีดให้กับประชาชนได้

สำหรับแนวทางการจัดเก็บและขนส่งวัคซีนโควิด 19 เป็นไปตามมาตรฐานสากล (องค์การอนามัยโลก) โดยมีแนวทางและกระบวนการปฏิบัติที่สำคัญ 5 ข้อ ดังนี้ 1.มีระบบติดตามควบคุมอุณหภูมิการจัดเก็บ พร้อมข้อมูลการแสดงผลแบบ real time เพื่อสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาจัดเก็บ 2.มีอุปกรณ์ติดตามการจัดเก็บและขนส่งวัคซีนตามมาตรฐาน เช่น เทอร์โมมิเตอร์ 3.จัดเก็บในคลังหรือตู้เย็นที่มีพื้นที่เพียงพอ อุณหภูมิถ่ายเทเหมาะสม โดยเฉพาะกรณีตู้เย็น ให้จัดเก็บที่ตรงกลางตู้เย็น เพื่อให้อยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส และห่างจากจุดปล่อยความเย็น ไม่ควรจัดเก็บที่ถาดรองใต้ช่องแช่แข็งหรือชั้นที่ติดกับชั้นแช่แข็งเด็ดขาด เพราะอาจทำให้อุณหภูมิต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส 4.ในกระบวนการบรรจุวัคซีนเพื่อขนส่งมีระบบ Conditioning ice pack หรือ gel pack โดยนำ ice pack หรือ gel pack ที่แช่แข็งมาตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 15-30 นาที สังเกตให้มีหยดน้ำเกาะก่อนบรรจุ รวมทั้งขณะบรรจุจะต้องมีอุปกรณ์กั้น เช่น กระดาษ เพื่อไม่ให้ ice pack หรือ gel pack สัมผัสกับวัคซีนโดยตรง ขั้นตอนนี้จะป้องกันไม่ให้วัคซีนมีอุณหภูมิติดลบก่อนถึงหน่วยบริการ 5.มีแผนตอบโต้
ภาวะฉุกเฉินและระบบแจ้งเตือน กรณีเหตุการณ์ฉุกเฉินในระบบลูกโซ่ความเย็น (cold chain breakdown) ที่อุณหภูมิจัดเก็บเปลี่ยนแปลงต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส หรือ สูงกว่า 8 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนมีบุคลากรวิชาชีพสาขาต่างๆ เช่น แพทย์ เภสัชกร พยาบาล ดูแลความถูกต้องของผลิตภัณฑ์และการฉีดวัคซีน ซึ่งก่อนให้บริการฉีดวัคซีนมีการตรวจเช็คก่อนฉีดให้กับประชาชน และปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพของตนเองทุกประการ

สำหรับผู้ให้บริการจำเป็นต้องตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของวัคซีนทุกขวดก่อนใช้ หากพบเห็นการเกิดตะกอนที่ผิดปกติ เช่น เขย่าแล้วไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน หรือเห็นเป็นเม็ดตะกอนเล็กๆ กระจายไปทั่ว หรือตกตะกอนอย่างเร็ว ห้ามใช้วัคซีนขวดนั้น และแจ้งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือกรมควบคุมโรค โดยระบุลักษณะของวัคซีนและสาเหตุที่เกิดขึ้น ชื่อวัคซีน รุ่นการผลิต รายละเอียดของเหตุการณ์ อุณหภูมิสุดท้ายของวัคซีนที่จัดเก็บก่อนพบความผิดปกติ พร้อมรูปถ่าย เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โทร. 02 951 0000 ต่อ 99940 และสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422)

 

*******************************
ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค
วันที่ 29 มิถุนายน 2564