วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า แม้ว่าประเทศไทยจะอยู่ในช่วงฤดูฝน แต่ยังคงประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนที่ตกวัดได้ต่ำกว่า 1 มิลลิเมตร ติดต่อกันเกิน 15 วัน ทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง และในหลาย ๆ พื้นที่ การกระจายตัวของฝนค่อนข้างน้อย ปริมาณฝนไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืชผลทางการเกษตร กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายว่ายังคงประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ดังนั้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการ กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค
โดยร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ซึ่งสนับสนุนอากาศยานและกำลังพล ในการร่วมปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มีน้ำน้อย และพื้นที่ในเขตชลประทานที่มีการจัดสรรน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งมีการขอรับบริการฝนหลวงเข้ามา กรมฝนหลวงและการบินเกษตรพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือในทุก ๆ พื้นที่ สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำพูน พะเยา ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมินครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี พัทลุง เพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 7 แห่ง และอ่างเก็บน้ำจำนวน 5 แห่ง
นายปนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวง ในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มี 2 หน่วย ปฏิบัติการที่ไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ คือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเครื่องบินของกองทัพอากาศตรวจพิเศษประจำสัปดาห์ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุรินทร์ เนื่องจากสนามบินติดภารกิจ และบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กำแพงเพชร จ.สุโขทัย
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี
จ.กาญจนบุรี
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ชัยนาท จ.อุทัยธานี
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร การเกษตร จ.เลย จ.ขอนแก่น จ.หนองบัวลำภู
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา
- หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ฉะเชิงเทรา
จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 4 หน่วยปฏิบัติการ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศ
มีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100