ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม ๕ แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-๑๙ ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๔ โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และห้องประชุม ๑ ชั้น ๒ กรมราชทัณฑ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาด ๑๒ แห่ง และเป็นเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด ๑๒๗ แห่ง และอยู่ระหว่างรอการปรับสถานะเรือนจำเป็นสีขาว ๓ แห่ง โดยพบว่า การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มดีขึ้น การติดเชื้อแดนในลดลง และมีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านรายงานการติดเชื้อในวันนี้ มีจำนวนผู้ป่วยที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ๕,๐๑๐ ราย เป็นกลุ่มสีเขียว ๔,๔๒๓ ราย หรือ ๘๘.๔% สีเหลือง ๕๕๘ ราย หรือ ๑๑% และสีแดง ๒๙ ราย หรือ ๐.๖% โดยจำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังคงเพิ่มขึ้นและมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ มียอดรักษาหายสะสมอยู่ที่ ๓๐,๖๐๘ ราย หรือ ๘๕% ของจำนวนผู้ป่วยสะสมที่มีจำนวน ๓๕,๘๘๔ ราย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ มีจำนวน ๑ ราย รวมเสียชีวิต ๓๗ ราย หรือ ๐.๑% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
ด้านการแพร่ระบาดในเรือนจำสีแดง แนวโน้มสถานการณ์ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครที่พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายเพิ่มขึ้น และมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีเรือนจำสีแดงหลายแห่งไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน อาทิ เรือนจำจังหวัดนนทบุรีและเรือนจำจังหวัดสงขลา ที่ไม่พบการติดเชื้อใหม่กว่า ๑ สัปดาห์ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากแดนในเป็นระยะเวลา ๑๒ วัน และมีผู้ติดเชื้อเหลือเพียง ๒ รายเท่านั้น จึงคาดว่าจะได้รับการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงเรือนจำกลางบางขวางที่คาดว่าผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ปัจจุบัน จะได้รับการรักษาจนหายเกือบทั้งหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๔
นายวัลลภฯ กล่าวต่อว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายแห่ง และบางแห่งอยู่ในการควบคุมได้แล้ว แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ภายนอก ยังคงพบการแพร่ระบาดและ มีการขยายพื้นที่การระบาดมากขึ้น จึงขอให้บุคลากร และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ได้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานภายในสถานที่ควบคุม ที่มีความเสี่ยงต่อการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่อาจจะถูกนำเข้าผ่าน ๓ ช่องทาง คือ
๑.เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
๒. ครอบครัวของเจ้าหน้าที่
๓.จากผู้ต้องขังเข้าใหม่
ซึ่งต้องระมัดระวังและคัดกรองเชื้ออย่างเข้มข้นในทุกจุดโดยไม่มีข้อยกเว้น และหากมีความต้องการการสนับสนุนในด้านใด ทั้งเรื่องอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ยา หรือบุคลากรปฏิบัติงาน ให้ประสานมาที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม (ศบค.ยธ.) เพื่อให้การป้องกันเชื้อเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ ยังคงที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ล่าสุดมีผู้ป่วยทั้งหมด ๕ ราย เป็นเยาวชน ๓ ราย และเจ้าหน้าที่ ๒ ราย และผู้ป่วยสะสมทั้งหมด ๙๓ ราย หรือคิดเป็นร้อยละ ๕.๓๘ ขณะที่สถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีสถานะรวม ๓๘ แห่ง จากทั้งหมด ๕๖ แห่ง โดย ๑๘ แห่ง อยู่ระหว่างรอตรวจและรอผล ๙ แห่ง หมดสถานะสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว ๔ แห่ง และติดเชื้อรวม ๕ แห่ง ด้านสถิติการฉีดวัคซีนของเจ้าหน้าที่ ๒,๘๒๗ ราย จากทั้งหมดจำนวน ๔,๔๐๙ ราย หรือร้อยละ ๖๔.๑๒
*****************************************