รัฐฯ สั่งทุกหน่วยงานจับมือกันช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยเกษตรกร หลังประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางต้องเผชิญกับภาวะฝนทิ้งช่วง สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปีไปแล้ว ลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ปัจจุบัน (21 มิ.ย. 64) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 34,788 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 46% ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 10,860 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 7,956 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 32% ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 1,260 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งในขณะนี้มีการเพาะปลูกข้าวนาปี 64 ไปแล้วทั้งประเทศรวม 7.52 ล้านไร่ คิดเป็น 45% ของแผน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 4.50 ล้านไร่ คิดเป็น 56% ของแผน

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีการกระจายตัวของฝนลดลง อาจจะส่งผลให้เกิดฝนทิ้งช่วงในช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้อย ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรบางพื้นที่ในลุ่มเจ้าพระยาได้อย่างเต็มศักยภาพ สำหรับพื้นที่ที่ทำการเพาะปลูกไปแล้ว กรมชลประทาน จะจัดสรรน้ำตามรอบเวรให้กับพื้นที่การเกษตร และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูก ขอให้ชะลอการเพาะปลูกออกไปก่อน จนกว่าจะมีปริมาณฝนตกในพื้นที่สม่ำเสมอและมีปริมาณน้ำเพียงพอ อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ขึ้นบินเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เหนือเขื่อนอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ให้มากขึ้น

อนึ่ง ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะเกิดพายุบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย กรมชลประทาน จึงกำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ และสำนักเครื่องจักรกล เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังพล ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีหากเกิดวิกฤติ ตามข้อสั่งการของ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน

กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ ตลอดจนน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเพียงพอตามแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 64 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเดินหน้าประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ ตลอดจนการจัดสรรน้ำแบบรอบเวรให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ต่างๆ รับทราบอย่างต่อเนื่อง ส่วนการปลูกพืชให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก เน้นย้ำให้ใช้น้ำท่าจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงการวางแผนสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าอีกด้วย หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา