กรมควบคุมโรค ขอเผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 23/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 25 (วันที่ 20 – 26 มิ.ย. 64)

“สถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดพิษในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 6 มิถุนายน 2564 พบผู้ป่วย 218 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป รองลงมาอายุ 45-54 ปี และอายุ 35-44 ปี ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ตามลําดับ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดพิษในแหล่งเดียวกัน จำนวน 2 ราย ที่จังหวัดยโสธร”

“พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดพิษเพิ่มขึ้น เนื่องจากเห็ดหลายชนิดเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะเห็ดป่าในพื้นที่ธรรมชาติ มีทั้งเห็ดที่รับประทานได้ และเห็ดพิษที่ไม่สามารถรับประทานได้ ซึ่งเห็ดดังกล่าวมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก อาจทำให้สับสนได้ เห็ดพิษไม่สามารถทำลายพิษได้ด้วยความร้อน ประชาชนจึงควรตระหนักและระมัดระวังในการนำเห็ดป่ามารับประทาน อาการที่สังเกตได้หลังรับประทานเห็ดพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ท้อง ภายใน 6-24 ชั่วโมง หากเกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้เกิดภาวะตับหรือไตวาย ส่งผลให้ผู้รับประทานเห็ดพิษเสียชีวิตได้

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หลังรับประทานเห็ด ควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ผู้ป่วยอาเจียนเอาเศษอาหารที่ตกค้างออกมาให้มากที่สุด และทำการช่วยลดการดูดซึม และเร่งขับสารพิษออกจากร่างกายผู้ป่วย โดยใช้วิธีนำน้ำอุ่นผสมผงถ่าน (activated charcoal) และดื่ม 2 แก้ว หากผู้ป่วยอาเจียนออกยากให้ใช้เกลือแกง 3 ช้อนชาผสมน้ำอุ่นดื่ม จะทำให้อาเจียนได้ง่ายขึ้น แต่วิธีนี้ห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี แล้วให้รีบนำไปพบแพทย์โดยเร็ว พร้อมทั้งนำตัวอย่างเห็ดและอาหารที่เหลือจากการรับประทานไป เพื่อตรวจวิเคราะห์ด้วย

ทั้งนี้ ขอเตือนประชาชนว่าหากไม่แน่ใจ ไม่รู้จัก หรือสงสัยว่าจะเป็นเห็ดพิษ ไม่ควรเก็บหรือซื้อมาปรุงอาหาร ควรเลือกเห็ดจากแหล่งที่มีการเพาะพันธุ์เพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงเห็ดจากธรรมชาติ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับเห็ด ประชาชนสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี โทร.1367 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”

*******************************************************
ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 20 มิถุนายน 2564