วธ.รวมพลังเครือข่ายวัฒนธรรม หน่วยงานรัฐ-เอกชน“ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกัน”ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ในกรุงเทพฯและ 76 จังหวัด สะท้อนความเป็นไทย มีน้ำใจ แบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.)เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ได้มีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จัดโครงการ“ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกัน”โดยใช้พลังบวร ด้วยการมอบสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด(สวจ.) ทั้ง 76 จังหวัดประสานขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด เครือข่ายศาสนาและวัฒนธรรม ผู้นำศาสนา ชุมชนคุณธรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัด/อำเภอ/ตำบล หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคมที่มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดนั้น

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(สป.วธ.)ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและส่วนภูมิภาค 76 จังหวัดในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้ป่วยอยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม  ผู้ป่วยรักษาหายแล้วแต่ยังต้องกักตัวรอดูอาการ ผู้ที่อยู่ระหว่างกักตัวและผู้ได้รับผลกระทบในโรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม 81 แห่ง ชุมชน 350 ชุมชน วัด 61 แห่งและหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ หน่วยบริการสาธารณสุข มูลนิธิ สถานีตำรวจ 29 แห่ง

นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า  สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือโดยภาพรวมทั้งประเทศที่วธ.ได้ร่วมกับจังหวัด เครือข่ายศาสนาและวัฒนธรรม ผู้นำศาสนา หน่วยงานรัฐ เอกชนและหน่วยงานต่างๆดำเนินโครงการฯนั้นมีทั้งการจัดตั้งตู้ปันสุข/รถปันสุข โรงครัว /โรงทาน การมอบอาหารกล่อง ขนม/ผลไม้/น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง ถุงยังชีพ/ถุงปันสุข/ถุงปันน้ำใจ/ชุดธารน้ำใจ รวมทั้งมีการบริจาคเงินสนับสนุนการจัดซื้อและมอบอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ เจลล้างมือแอลกอฮอล์/สเปรย์แอลกอฮอล์  ชุดพีพีอี ถังพ่นยาและเครื่องใช้ที่จำเป็น

ทั้งนี้  ผลจากการดำเนินโครงการฯ ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันดีงามและอัตลักษณ์ของความเป็นไทยที่มีน้ำใจ แบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูล ไม่ทอดทิ้งกันและให้กำลังใจกันระหว่างพี่น้องคนไทยเพื่อร่วมกันฝ่าฟันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปด้วยกัน