นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย โดยมี นายแพทย์วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผู้อำนวยการ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ให้การต้อนรับและนำเสนอผลการขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัย และสร้างความเข้มแข็งด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
นายแพทย์วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี กล่าวว่า การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพมารดาและทารก ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยผ่านคณะกรรมการ MCH Board ระดับเขต ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ เพื่อลดการตายมารดาจากสาเหตุที่ป้องกันได้ ในปี 2563 พบมารดาตาย 11 ราย อัตรา 25.2 ต่อแสนการเกิดมีชีพ สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไม่เกิน 17 ต่อแสนการเกิดมีชีพ ปี 2564 ศูนย์อนามัยจึงได้จัดทำแนวทางการคัดกรองความเสี่ยง การส่งต่อ ให้โรงพยาบาลจับคู่บริการทางสูติกรรม ทบทวนกรณีมารดาตายทุกราย และเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงโดยครอบครัวและชุมชน ผลการดำเนินงานรอบ 8 เดือน (ตุลาคม 2563 – พฤษภาคม 2564) พบมารดาตาย 5 ราย อัตรา 19.33 ต่อแสนการเกิดมีชีพแสนคน
นายแพทย์วิเชียร กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานพัฒนาการและการเจริญเติบโตกลุ่มเด็กปฐมวัยอายุ 0-5 ปี ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 5 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – เมษายน 2564 พบว่า มีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 87 และสูงดีสมส่วน ร้อยละ 67.6 สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้คือร้อยละ 85 และร้อยละ 62 ตามลำดับ แต่ประเด็นที่ต้องดำเนินการเพื่อลดจำนวนลงคือ พัฒนาการสงสัยล่าช้า พบร้อยละ 25.87 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดคือมากกว่าร้อยละ 20 ศูนย์อนามัยจึงต้องเร่งตามมาตรการและติดตามพัฒนาการเด็ก สงสัยล่าช้า ดังนี้
1) ใช้กลไกคณะอนุกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด และ MCH Board เพื่อจัดบริการที่ได้มาตรฐาน
2) บูรณาการกับภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต เล่นเปลี่ยนโลกในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
3) พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ใหม่ให้สามารถคัดกรองและส่งเสริมพัฒนาการได้ตามมาตรฐานโดยปรับให้มีการอบรม ในหลักสูตร e-Leaning DSPM
4) ประสานและส่งต่อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และ CUP เร่งค้นหาและติดตามเด็กกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับการตรวจและส่งเสริมพัฒนาการหลังการระบาดโควิด-19 ลดลง
5) ติดตาม ตรวจสอบการบันทึกและส่งออกข้อมูลให้ถูกต้องและทันเวลา
“สำหรับมาตรการในการติดตามการเจริญเติบโตของเด็กปฐมวัยนั้นเด็กอายุ 0-5 ปี ได้รับการติดตามจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นรายบุคคลเพื่อกระตุ้นให้มีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มมีเด็กที่อ้วนและเตี้ย พร้อมทั้งมีการสร้างความรอบรู้ให้ครู ผู้ปกครอง เห็นความสำคัญของภาวะทุพโภชนาการเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และกำกับติดตามเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก ซึ่งพบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 29.5 จึงต้องส่งเสริมการดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ลดการแพร่เชื้อโรคฟันผุจากแม่สู่ลูก ฝึกทักษะผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กและตรวจเฝ้าระวังฟันผุเมื่อเข้าสู่วัยก่อนเรียน เน้นคุณภาพกิจกรรมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 4D ฝึกสุขนิสัยเด็กแปรงฟันทั่วทั้งปาก 2 นาที และเพิ่มความครอบคลุมของบริการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพ” ผู้อำนวยการ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 5 มิถุนายน 2564