ขอ Form E ส่งออกผลไม้พุ่ง คต. ดันใช้ระบบ Electronic Signature and Seal (ESS) อำนวยความสะดวก

กรมการค้าต่างประเทศผลักดันนวัตกรรมดิจิทัล เตรียมใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal: ESS) ภายใต้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวของกระทรวงพาณิชย์ (MOC Online One Stop Service) สำหรับการออก Form E ไปจีน ช่วยผู้ส่งออกไทยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดต้นทุน และลดการตรวจสอบจากปลายทาง (Verify)

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – เมษายน) กรมฯ ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) จำนวน 80,528 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 7.76 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้เป็นการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E สำหรับการส่งออกสินค้าผลไม้ จำนวน 30,412 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.21 ช่วงเดียวกันของปีก่อน (1,390 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยผลไม้ที่มีการส่งออกสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ทุเรียนสด (ร้อยละ 71.07) 2) มะพร้าวทั้งกะลา (ร้อยละ 5.25) และ 3) มังคุด (ร้อยละ 2.08)

อย่างไรก็ดี ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่จำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) กรมการค้าต่างประเทศจึงได้ร่วมมือกับจีนในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการโดยผลักดันการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal: ESS) สำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ซึ่งระบบดังกล่าวเป็น 1 ใน 85 รายการของบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวของกระทรวงพาณิชย์ (MOC Online One Stop Service) ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดการสัมผัสเอกสารเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการประทับตราและลงนามแบบสด รวมทั้งระบบ ESS ยังช่วยลดการตรวจสอบย้อนกลับ (Verify) จากประเทศปลายทาง

เนื่องจากลายมือชื่อและตราประทับเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และหลังจากที่เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุมัติคำขอแล้ว ระบบ ESS จะนำลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์จากฐานข้อมูลของกรมฯ มาพิมพ์บนฟอร์มโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถลดเวลาในการขอรับฟอร์มเหลือเพียง 10 นาที/ฉบับ จากเดิมที่เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการต้องลงลายมือชื่อและประทับตราแบบสด ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาที/ฉบับ

นายกีรติกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ จะสามารถเริ่มออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ด้วยระบบ ESS สำหรับการส่งออกไปจีนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนเพื่อส่งตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการหรือผู้รับมอบอำนาจ และตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) ผ่านระบบ Registration Database ของกรมฯ (http://reg-users.dft.go.th) ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเว้นผู้ประกอบการที่เคยจดทะเบียนลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฟอร์มอื่นที่ใช้ระบบ ESS แล้ว ไม่จำเป็นต้อง จดทะเบียนใหม่อีกครั้ง

ผู้ประกอบการสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4830 และ 0 2547 4838 หรือ เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th และสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385

***************************
13 พฤษภาคม 2564