29 เมษายน 2564 : ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รองศาสตราจารย์ ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรี และศาสตราจารย์ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามของ อว. ณ อาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (ศูนย์บางคล้า) ตำบลหัวไทร อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมร่วมรับฟังข้อมูลการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยและจังหวัด โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนายแพทย์ดิเรก ภาคกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางคล้า ร่วมให้การต้อนรับ
โรงพยาบาลสนามของ อว. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ศูนย์บางคล้า เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถรองรับผู้ป่วยระดับสีเขียวได้ 200 เตียง และขยายได้ถึง 250 เตียง จัดตั้งและบริหารจัดการภายใต้การกำกับดูแลของสาธารณสุขจังหวัด วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้งานในโรงพยาบาลสนาม รวมถึงของใช้ส่วนตัวของผู้ป่วยที่จะเข้าพัก ได้รับบริจาคจากหน่วยราชการและภาคเอกชน ซึ่งให้ความร่วมมือกับจังหวัดและมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี และโรงพยาบาลสนามพร้อมที่จะรับผู้ป่วย covid-19 ได้ทันทีที่ได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลในจังหวัดฉะเชิงเทรา
ดร.เอนก กล่าวอีกว่า อว. มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ขณะนี้ประมาณ 50 แห่ง มีจำนวนเตียงรวมกันกว่า 12,000 เตียง หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนเตียงก็สามารถเพิ่มได้อย่างน้อยอีกหนึ่งเท่า เพราะเรามีมหาวิทยาลัยที่มีสถานที่ที่สามารถรองรับได้ นอกจากนี้ยังมีคณะแพทย์และพยาบาลที่กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ อว.เป็นกำลังสำรองของประเทศที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณ ในวิกฤติโควิดรอบนี้ ชาว อว. แสดงออกว่าเราพร้อมที่จะเข้าสู่ภาคปฏิบัติในยามจำเป็น ตอนนี้เราต้องนำปัญหาของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง จัดการเรื่องของเราเองและช่วยคนอื่นไปด้วย ไม่ใช่เรื่องเฉพาะ อว.เท่านั้น ในหลายๆ หน่วยงานก็มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“โรงพยาบาลสนามของจังหวัดฉะเชิงเทราจะสามารถช่วยกรุงเทพฯ ได้มาก เพราะโรงพยาบาลสนามในกรุงเทพยังค่อนข้างติดขัด แต่ด้วยแรงสนับสนุนของปริมณฑลก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ จากนี้เรายังจะต้องเจอสถานการณ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนผู้ป่วย และระดับความรุนแรง เรื่องใดที่สามารถเตรียมตัวได้ก็ต้องเริ่มเตรียมการ อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าพวกเราจะผ่านไปได้ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณและให้กำลังใจทุกท่าน ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วมมือกันทำงาน รวมไปถึงขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ช่วย อว.และสาธารณสุขในการเป็นผู้นำในยามวิกฤตได้เป็นอย่างดี” รมว.อว. กล่าวในตอนท้าย