แพทย์แผนไทยเผยวิธีการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

แพทย์แผนไทยเผยวิธีการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยแบบองค์รวม คือ การดูแลสุขภาพกายและเยียวยาสุขภาพใจไปพร้อม ๆ กัน สมาชิกทุกคนในครอบครัวต้องให้ความสำคัญและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปี 2564 ประเทศไทยจัดเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society)” คือมีประชากรผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด เป็นประเทศลำดับที่สองของอาเซียน รองจากประเทศสิงโปร์ และในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ อีกทั้งเป็นวันสงกรานต์ ซึ่งในปีนี้งดการเล่นสาดน้ำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้วิธีการคลายร้อนในหน้าร้อนลดลง และอากาศที่ร้อนอบอ้าวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้สูงอายุให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย อาการที่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงนี้ ได้แก่ เหนื่อยง่าย วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร และอาการนอนไม่หลับ

วิธีการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวมตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย คือ การดูแลสุขภาพกายและการเยียวยาสุขภาพจิตใจไปพร้อม ๆ กัน การดูแลสุขภาพกาย ในช่วงหน้าร้อนจะปรับตั้งแต่การรับประทานอาหาร โดยจะให้เน้นรับประทานอาหารที่มีรสขม เช่น ต้มจืดมะระ แกงขี้เหล็ก สะเดาน้ำปลาหวาน และผักต้มจิ้มน้ำพริก เนื่องจากอาหารที่มีรสขม จะช่วยคลายความร้อนภายในร่างกาย กระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยให้เจริญอาหาร และนอนหลับได้สนิท ยาสมุนไพรที่เหมาะสมคือ ยาหอมนวโกฐ ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อ่อนเพลีย และช่วยให้เจริญอาหาร น้ำมันไพล/ยาหม่องไพล ใช้ถูนวดบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก ส่วนการเยียวยาสุขภาพจิตใจ แนะนำให้ลูกหลานรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุด้วยการผสมน้ำอบ/น้ำปรุงจากสมุนไพร เพราะกลิ่นของน้ำอบ/น้ำปรุงจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น คลายความเครียด และช่วยให้ผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงขึ้น แต่หากท่านใดไม่ได้กลับบ้านในช่วงนี้ ก็ให้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ โดยการโทรศัพท์หรือการวิดีโอคอลออนไลน์ เพื่อขอพรกับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่นับถือ ซึ่งก็จะช่วยเยียวยาจิตใจได้เช่นเดียวกัน

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สมาชิกทุกคนในครอบครัวต้องให้ความสำคัญและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ถึงจะทำให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

*****12 เมษายน 2564*****