คณะอนุกรรมการด้านการป้องกันควบคุมโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัส เห็นชอบให้ขยายผลการดำเนินงานไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ใน 12 จว.นำร่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

คณะอนุกรรมการด้านการป้องกันควบคุมโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัส  มีมติเห็นชอบใน 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่     1.ให้มีการขยายผลการดำเนินงานไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ใน 12 จังหวัดนำร่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และ 2.ให้หารือผู้เชี่ยวชาญ สปสช. และกรมควบคุมโรค ดำเนินการพื้นที่นำร่อง ทั้งการดำเนินงานที่เข้าถึง คัดกรอง และรักษาในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไวรัสตับอักเสบบีและซี

วันที่ 6 ธันวาคม 2561 นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่า จากที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการป้องกันควบคุมโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัส ครั้งที่1/2561 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน2561 ที่ผ่านมา ณ กรมควบคุมโรค  โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 2 ประเด็นสำคัญ  ได้แก่ 1.ให้มีการขยายผลการดำเนินงานไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ใน 12 จังหวัดนำร่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านกลไก MCH board (Maternal Child Health Board) และ 2.ให้หารือผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมควบคุมโรค ดำเนินการพื้นที่นำร่องทั้งการดำเนินงานที่เข้าถึง คัดกรอง และรักษาในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไวรัสตับอักเสบบีและซี

โดยที่ผ่านมาโรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขอความร่วมมือให้ทุกประเทศร่วมกันกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบี โดยมีเป้าหมายให้ความชุกของการป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบบี ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต่ำกว่าร้อยละ 0.1 ภายในปี 2573 ซึ่งประเทศไทยคาดว่าจะเป็นผู้นำด้านการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ตั้งเป้าหมายในการกำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ภายในปี 2568

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำโครงการกำจัดการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ดำเนินการในพื้นที่ 12 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ นนทบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น อุดรธานี สุรินทร์ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา  เพื่อนำร่องระบบการดำเนินงานและมาตรการที่สำคัญต่างๆ และเตรียมวางแผนงานเพื่อขยายผลการดำเนินงานดังกล่าวให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามมติที่ประชุม ต่อไป

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า อีกประเด็นคือที่ประชุมให้ร่วมหารือผู้เชี่ยวชาญ สปสช. และกรมควบคุมโรค ดำเนินการพื้นที่นำร่อง ทั้งการดำเนินงานที่เข้าถึง คัดกรอง และรักษาในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไวรัสตับอักเสบบีและซี    ซึ่งทาง สปสช. จะได้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินในการตรวจคัดกรอง การยืนยันในชุดสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมประชาชนที่มีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีทุกราย  รวมถึงพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การรักษาผู้ป่วยโรคตับอักเสบซีเรื้อรัง โดยไม่เลือกปฏิบัติ สนับสนุนการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีทุกสายพันธุ์ โดยเสนอให้บรรจุอยู่ในบัญชียาหลัก และสนับสนุนให้แพทย์ทั่วไปสามารถรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีได้  สำหรับการติดตามการดำเนินงาน กรมควบคุมโรค ร่วมกับ สปสช. แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบการเก็บรวบรวมข้อมูล การตรวจรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ให้มีพัฒนาการจัดการระบบข้อมูลที่ดี เพื่อเก็บข้อมูลประชากรกลุ่มเสี่ยง และช่วยในการติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีแผนการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ภายใต้แผนปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด พ.ศ.2562-2564 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีอย่างเป็นรูปธรรม มีเป้าหมายเพื่อลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงภายในปี 2564  และได้กำหนดเป้าหมาย ดังนี้ 1) ลดอุบัติการณ์ของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี น้อยกว่าร้อยละ 0.1        2) ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคตับที่เกี่ยวข้องกับไวรัสตับอักเสบบี ร้อยละ 15  3) ลดอุบัติการณ์ของประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ร้อยละ 30  และ 4) ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคตับที่เกี่ยวข้องกับไวรัสตับอักเสบซี ร้อยละ 15  ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

*******************************************************

ข้อมูลจาก :สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค