รมว. อว. เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยศิลปากร “มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์”

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564  ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะผู้บริหาร อว. ประกอบด้วย ศาสตราจารย์ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ รองศาสตราจารย์ ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ตรวจเยี่ยมและชมนิทรรศการแสดงผลงานมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากรให้การต้อนรับ

รมว.อว. และคณะ ร่วมสักการะเจ้าพ่อหอเชือก และวางดอกไม้หน้าอนุสาวรีย์ ศ.ศิลป์ พีระศรี จากนั้นเข้าชมนิทรรศการแสดงผลงานพร้อมทั้งชมการแสดงผลงานการออกแบบเครื่องประดับและการแสดงผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวต้อนรับ แนะนำมหาวิทยาลัยศิลปากรและผลงานที่มีความโดดเด่นของมหาวิทยาลัย ในการนี้ รมว.อว. ได้มอบนโยบายของกระทรวง อว. แก่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยศิลปากรและผู้เข้าร่วมประชุม

รมว.อว. กล่าวตอนหนึ่งว่า ศิลปะยืนยาว เพราะเป็นทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรม แต่ผู้สร้างศิลปะมีอายุจำกัด ดังคำพูดของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่กล่าวว่า ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น ศิลปะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างประเทศชาติ พระเจ้าแผ่นดินของเราหลายพระองค์พยายามสร้างศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง และรวมไปถึงเจ้านายชั้นสูง ขุนนาง สามัญชน ชาวบ้าน ที่สร้างศิลปะให้แก่ประเทศไทย ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงการผสมกลมกลืนของชาติพันธุ์ ภาษา ชุมชน มหาวิทยาลัยศิลปากรมีส่วนสำคัญในการนำศิลปะสากล ศิลปะตะวันตก ผ่านท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี เข้ามารังสรรค์ศิลปะไทยให้เดินต่อไปข้างหน้า เราไม่สามารถอนุรักษ์แต่เพียงเท่านั้น แต่จะต้องสืบทอดพัฒนาศิลปะต่อไปอีกเรื่อยๆ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีชีวิต และจะมีชีวิตต่อไป ความยิ่งใหญ่ทั้งหลายจะต้องสร้างต่อไปอย่างไม่หยุด

“อยากเห็นมหาวิทยาลัยศิลปากรทำให้ชุมชนเป็นศิลปิน นำความเป็นเลิศของตัวเองแผ่ไปในชุมชน และพื้นที่ให้มากขึ้น ทำให้คนในพื้นที่และชุมชนเป็นศิลปินให้ได้มาก ต้องทำให้มหาวิทยาลัยออกจากหอคอยงาช้างไปสู่ประชาชน ไปสู่การปฏิบัติและการพัฒนา นำศิลปะออกจากสตูดิโอไปสู่ประชาชน หากทำได้มากประเทศไทยจะสามารถไปสู่การทำเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้มาก เพราะเมื่อไปผนวกเข้ากับของเดิมของเราที่มีอยู่อาจจะได้อะไรที่เราเองก็คาดไม่ถึง ดีใจและขอชื่นชมชาวศิลปากร ที่มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งการสร้างสรรค์ และเป็นกำลังที่สำคัญแก่ชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต” รัฐมนตรีฯ เอนก กล่าวในตอนท้าย