วันที่ 5 เมษายน 2564 นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้จัดให้มีการจัดทำแผนแม่บท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2680) และแผนปฏิบัติราชการ 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการ
พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค (สสภ.) และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) จากทั่วประเทศ และมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เป็นผู้กล่าวรายงาน ณ โรงแรม เวลคัม เวิลดิ์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา พัทยา จังหวัดชลบุรี
นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ในโอกาสนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้มอบนโยบายการดำเนินงานแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมว่า “จากการที่ท่านได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของหน่วยงานในระดับพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ได้เห็นความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ การจัดทำแผนในครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสที่ดี ที่กระทรวงฯ จะได้ทบทวนบทบาทการทำงานกันใหม่ เพื่อให้การทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย เพราะทุกวันนี้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและจับตามองการทำงานของกระทรวงทางด้านสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศเป็นอันดับ 1 ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
เนื่องจากเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับได้ว่าเป็นทั้ง “จุดเริ่มต้น” และ “จุดจบ” ของทุกสิ่ง หากเราดูแลบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเริ่มต้นไม่ดี ก็จะเป็นจุดจบของการบริหารจัดการประเทศด้วย ท่านรัฐมนตรีฯ วราวุธ จึงได้ฝากให้ทุกคนช่วยกันทบทวนสิ่งที่ต้องปรับปรุง งานที่ต้องสานต่อ ในการจัดทำแผนระยะ 20 ปีของกระทรวงฯ และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือ ต้องช่วยกันสื่อสารสร้างการรับรู้ถึงบทบาทภารกิจการทำงานของกระทรวงฯ ที่ถูกต้องไปสู่ประชาชน และช่วยกันสร้างจิตสำนึกให้คนไทย และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ทุกคนเกิดความตระหนักและรู้สึกเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนผืนแผ่นดินไทยนี้ เพื่อนำไปสู่การร่วมกันอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป”
นายปิ่นสักก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในการประชุมจัดทำแผนดังกล่าว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของ ทสจ. ทั่วประเทศว่า “ทสจ. นับว่ามีบทบาทสำคัญที่จะทำให้การจัดทำแผนของกระทรวงฯ เกิดการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้ จึงต้องเป็นศูนย์กลางในการวางแผนจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับระดับจังหวัด และต้องมองความทับซ้อนของการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นให้ออก เพื่อเป็นหน่วยยุทธศาสตร์ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดได้ และต้องมองตัวชี้วัดของงานให้รอบด้านเท่าทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ดังนั้น จึงขอฝากให้ ทสจ. ทุกจังหวัดกลับไปดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นแผนจากระดับพื้นที่ที่สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์จากส่วนกลางที่กำลังจัดทำขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้การทำงานของกระทรวงฯ สามารถรองรับกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจจะมีขึ้นได้ และมุ่งไปสู่เป้าหมายสูงสุด ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขได้ต่อไป”