เลขา รมว.ยุติธรรม เผย ตั้งกรรมการสอบสวนพ่อบ้านทำร้ายเด็ก 17 ปีแล้ว พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนอธิบดีกรมพินิจฯ ยัน กล้องวงจรปิดชัดเยาวชนไม่ถูกทำร้าย-กินอาหารครบทุกมื้อ

จากกรณี เยาวชน อายุ 17 ปี 3 คนหลบหนีออกจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง บอกมารดาว่า ถูกพ่อบ้านทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าร้องเรียนกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมนำลูกชายเข้ารักษาตัวที่ รพ.ระยอง และเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ระยอง เพื่อดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พานางเล็ก แม่ของนายเอ อายุ 17 ปี และนางใหญ่ แม่ของนายบี อายุ 17 ปี เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อร่วมพูดคุยหาแนวทางช่วยเหลือ

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ล่าสุดมีเยาวชน 1 คน จากทั้ง 3 ราย ได้กลับเข้าสู่กระบวนการของสถานพินิจฯ แล้ว ส่วนอีก 2 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่าย เยาวชนอีก 2 ราย จะต้องกลับเข้าสู่กระบวนการของสถานพินิจฯ ดังเดิม ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายนั้น จะขอสอบสวนและพูดคุยกับเด็กทั้งหมดโดยตรงก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว โดยใช้เวลา 7 วัน ก่อนแถลงให้ทราบต่อไปอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองกับเยาวชน แจ้งความประสงค์จะไม่ขอกลับไปสถานพินิจฯ เดิมนั้น ขอเรียนว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้สถานพินิจฯ มีกล้องวงจรปิดทุกจุด ฉะนั้นอยากให้มั่นใจว่าหากมีเรื่องรุนแรงหรือความไม่ปลอดภัยใด ๆ เกิดขึ้น สามารถขอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดได้ทั้งหมด โดยกระทรวงยุติธรรมพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ จ.ระยอง เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ภายใน 3 วัน ยืนยันว่าเยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจฯ จ.ระยอง นั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะมีกล้องวงจรปิดทุกจุดคอยบันทึกภาพตลอด 24 ชม. และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดนั้น ไม่พบการกระทำตามที่เด็กอ้างแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่เยาวชนอ้างว่าได้ทานอาหารมื้อเดียว ไม่เป็นความจริง เพราะสถานพินิจฯ จัดอาหาร และขนมให้ครบทุกมื้อ ส่วนผลทางการแพทย์อยู่ระหว่างแพทย์ตรวจสอบโดยละเอียด ทั้งนี้ พ่อบ้านที่ถูกเด็กอ้างยังปฎิบัติงานตามปกติ แต่หากตรวจสอบพบว่าทำร้ายร่างกายเด็กจริง จะต้องถูกลงโทษสถานหนักโดยการไล่ออกสถานเดียว