รมว.พม. แนะบุคลากร พม. ใช้ทักษะความรู้ด้านจิตวิทยาดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคม ในสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 30 มี.ค. 64 เวลา 14.30 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มอบข้อคิดและแนวทางการดำเนินงานให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ที่เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ Training-of-Trainers : TOT หลักสูตรด้านจิตวิทยาแก่บุคลากรกระทรวง พม. ในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคม ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตำแหน่งนักวิชาชีพ (นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และนักพัฒนาสังคม ) สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ (สสว.) 1 – 11 และผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมอบรม ณ โรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ ข้าวสาร เวียงใต้ กรุงเทพฯ

นายจุติ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 (โควิค- 19) ได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง ทั้ง เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งตนมีความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความยากลำบากมากขึ้นในสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยความระมัดระวังความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน และกลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้ใช้บริการ อีกทั้งต้องปฏิบัติงานท่ามกลางความตึงเครียดจากสภาพปัญหาทั้งส่วนตัว เศรษฐกิจ และสังคม ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยกองมาตรฐานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กมพ.) ได้มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำงานเชิงรุกและทำงานแบบสหวิชาชีพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Training-of-Trainers : TOT หลักสูตรด้านจิตวิทยาแก่บุคลากรกระทรวง พม. ในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพื่อสร้างและพัฒนาทีมวิทยากร ประจำ สสว. 1-11 เป็นกลไกและเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาบุคลากรทุกระดับในพื้นที่สำหรับการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทการทำงาน อีกทั้งทำให้เกิดทักษะ เพิ่มพูนความรู้ด้านจิตวิทยาและการบริการ รวมทั้งทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถลดความตึงเครียดขณะปฏิบัติหน้าที่และนำไปใช้กับผู้ใช้บริการให้มีความสุขในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาร่างกายของผู้ใช้บริการในระยะยาวต่อไป

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีการฝึกสมาธิ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับจิตใจในมนุษย์ทุกคน เพราะการฝึกให้มีสมาธิ มีสติในวันนี้ จะเป็นอาวุธประจำกายของทุกคน เมื่อต้องออกไปพบกับผู้ที่ประสบปัญหาและเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา เราต้องมีสติและหาทางช่วยให้พ้นจากปัญหาให้ได้ หากการให้วิชาการมาก แต่ขาดสติย่อมไม่เกิดประโยชน์ สุดท้ายนี้ ตนหวังว่าทุกคนที่ผ่านการอบรมครั้งนี้ จะได้ซึมซับความรู้ สิ่งดีๆ และสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานของตนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประสบปัญหาทางสังคมต่อไป

………………………………..