ศกพ. แถลงคุณภาพอากาศ 29 มีนาคม 2564 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในบางจังหวัด

นางสาวพิมพิกา โพธิสาโร รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศอากาศ ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2564 เวลา 07:00 น เช้าวันนี้ภาพรวมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก ปริมาณ PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ค่าเป้าหมายตามที่องค์กรอนามัยโลกกำหนด พี่น้องประชาชนสามารถออกมาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ แต่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีปริมาณ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในบางจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และอุบลราชธานี

ผลการตรวจวัด PM2.5 แยกตามรายภูมิภาค สรุปได้ดังนี้

• ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 34 – 259 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานรวม 16 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ พบค่า PM2.5 สูงสุดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ จำนวนจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง โดยในวันที่ 28 มี.ค. 2564 พบจุดความร้อนรวมใน 17 จังหวัดภาคเหนือ รวม 189 จุด พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุดที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ และ เชียงใหม่
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 34 – 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 9 – 33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 11 – 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 6 – 16 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดได้
10 – 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายผลกระทบของสภาพอากาศต่อการสะสมของฝุ่นละอองสำหรับวันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ในช่วงนี้ ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลแนวโน้มการสะสมฝุ่นละอองมีน้อยถึงปานกลาง สำหรับภาคใต้มีลมพัดปกคลุมต่อเนื่องและมีฝนตกบางพื้นที่ ทำให้การสะสมฝุ่นละอองมีน้อยตลอดช่วง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า พื้นที่ภาคเหนืออาจได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกเฉียงใต้ พัดฝุ่นละอองเข้ามาสะสมในพื้นที่ ประกอบกับความเร็วลมต่ำ อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นค่อนข้างมาก และยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการเผาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง

ศกพ. ขอความร่วมมือ 17 จังหวัดภาคเหนือ
1. ยังคงควบคุมและดับไฟป่า และควบคุมการเผาในที่โล่ง
2. บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด
3. ระดมสรรพกำลังเพื่อเพิ่มการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ
4. เร่งลดเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าโดยการชิงเก็บ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์เศษวัสดุการเกษตรเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตร
5. เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย
6. เร่งสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน พิจารณาจัดแถลงข่าวสถานการณ์และผลการดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบ

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ กองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดชายแดน ได้เร่งรัดประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านลดและควบคุมการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่รอยต่อระหว่างชายแดนและระดับอาเซียน เพื่อลดผลกระทบจากมลพิษหมอกควันข้ามแดน

นางสาวพิมพิกา กล่าวว่า ศกพ. ขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกประเภท หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ เพื่อบรรเทาการสะสมของฝุ่นละอองที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่ออากาศที่ดีของประชาชนทุกคน และขอแนะนำให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ดูแลสุขภาพ สวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์

ท่านสามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง โดยติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK และติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage “ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)” นางสาวพิมพิกา กล่าว

…………………………..