ทางหลวงชนบท สนับสนุนโครงการพระราชดำริในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ลาดยางถนนสายภายในบ้านทับทิมสยาม 03 จ.สระแก้ว คาดก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2564 นี้

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายภายในบ้านทับทิมสยาม 03 (ตอนที่ 2) อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เพื่อสนับสนุนโครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงมีความห่วงใยต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชา ทรงได้เสด็จเยี่ยมราษฎรและมีพระราชดำริในการฟื้นฟู และพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น โดยจัดทำโครงการทับทิมสยาม 03 กำหนดยุทธศาสตร์ ในการดำเนินงาน 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมา ทช.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายภายในบ้านทับทิมสยาม 03 (ตอนที่ 1) ช่วง กม.ที่ 1+875 ถึง กม.ที่ 6+200 ระยะทาง 4.325 กิโลเมตร (ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์)

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาให้ดี มากยิ่งขึ้น ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างถนนสายภายในบ้านทับทิมสยาม 03 (ตอนที่ 2) โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ กม.ที่ 0+000 – กม.ที่ 1+875 และ กม.ที่ 6+200 – กม.ที่ 15+000 ระยะทางรวม 10.675 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจรแบบแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ พร้อมขยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเดิม ก่อสร้างระบบระบายน้ำชุมชน ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยในบริเวณจุดเสี่ยงอันตราย ปัจจุบันการก่อสร้างมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 91 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ในเดือนเมษายน 2564 นี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 119.495 ล้านบาท (งบผูกพันปี 2562 – 2565)

เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากจะเป็นการพัฒนาถนนให้ได้มาตรฐานรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) สอดรับยุทธศาสตร์ประเทศด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนแล้ว ยังสอดรับกับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเพิ่มประสิทธิภาพและ ลดต้นทุนการขนส่งพืชผลทางการเกษตรให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดในช่วงเทศกาล เพื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อีกทางหนึ่งด้วย