กรมเจรจาฯ เตรียม ลงนามความร่วมมือ 5 หน่วยงานพันธมิตร เพื่อจัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดพิธีลงนามความร่วมมือและเสวนา เรื่อง “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA” หวังสร้างแนวร่วมและพันธมิตรในการเตรียมความพร้อม ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์จากความตกลงเอฟทีเอขยายตลาดสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปอาเซียนและจีน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาเซียนและจีนได้ลดภาษีสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมให้กับไทยเหลือร้อยละศูนย์แล้ว ซึ่งจากการที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ลงพื้นที่พบกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ในปี 2561  ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มเกษตรกรไทยหลายรายมีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล  มีความสามารถในการลดต้นทุน ควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากการค้าเสรีนี้ส่งออกและแข่งขันกับผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของโลกได้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA” ระหว่าง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมปศุสัตว์ เมืองนวัตกรรมอาหาร ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย และศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561 เวลา     09.00-12.30 น. ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกษตรกร สหกรณ์โคนม และผู้ประกอบการสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีที่ไทยมีกับประเทศคู่ค้าเพื่อขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีนและอาเซียนที่ปัจจุบันยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันแล้ว

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเสวนา เรื่อง “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA” โดยวิทยากรจากอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย ได้แก่ กรมปศุสัตว์ สำนักนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท เคซีจี คอร์เปอเรชั่น และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมบรรยาย ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและการเสวนาครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย โดยหลังจากงานเสวนาครั้งนี้ กรมฯ ยังเตรียมที่จะพาผู้ประกอบการไทยไปสำรวจตลาดจีนและจัดกิจกรรมร่วมกับ 5 หน่วยงานที่ลงนามความร่วมมือเพื่อจัดฝึกอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการเกษตรกรผู้ประกอบการโคนมรับมือการค้าเสรีอีกด้วย ซึ่งรวมถึงการที่ไทยจะต้องยกเลิกภาษีสินค้าหางนม (เวย์) เนย ไขมันเนย เนยแข็ง และนมผงที่มีไขมันเกินร้อยละ 1.5 เหลือศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ในสินค้านมและครีมเครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่ง และนมผงขาดมันเนย จะลดภาษีลงเหลือศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ให้กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

——————————————

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์