รมว.พม. นำทีม ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต บูรณาการ 12 หน่วยงาน เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน พร้อมดูแลเรื่องฝึกทักษะอาชีพใหม่ เมื่อเปิดประเทศ

วันที่ 13 มี.ค. 64 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนร่วมกับหน่วยงาน 12 กระทรวง และ ทีม พม. จังหวัด (One Home) เขตตรวจราชการที่ 6 (จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล)

โดยมี นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมคณะผู้บริหาร  นายปิยพงศ์  ชูวงศ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ผู้แทนหน่วยงาน 12 กระทรวง ในพื้นที่ และหัวหน้าหน่วยงาน ทีม พม. จังหวัด (One Home) เขตตรวจราชการที่ 6  เข้าร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน โดยตรวจสอบข้อมูลครอบครัวกลุ่มเปราะบางจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า : Thai People Map and Analytics Platform (TPMAP)  Social MAP  ผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ผู้ประสบปัญหาทางสังคม  เงินอุดหนุนประเภทต่าง ๆ  และเบี้ยยังชีพประเภทต่าง ๆ  เพื่อนำไปสู่การวางแผนการขับเคลื่อนโครงการฯ ต่อไป

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในวันนี้ ตนตั้งใจมาติดตามความคืบหน้าของการดูแลกลุ่มเปราะบาง เพราะว่าประชากรส่วนใหญ่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งพบผู้ได้รับผลกระทบและกลุ่มเปราะบางเพิ่มขึ้น โดยกระทรวง พม. จะเน้นเรื่องการบูรณาการของงานทั้ง 12 กระทรวง ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขอให้ทุกคนทำงานกันเป็นทีมประเทศไทย เพื่อจะได้ฟันฝ่าวิกฤติของจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ไปด้วยกันได้ ซึ่งมีปัญหาคล้ายๆ กัน และเมื่อเปิดประเทศ จะได้ดูแลกลุ่มเหล่านี้ให้มีอาชีพที่มีความยั่งยืนเพิ่มขึ้น

นายจุติ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับตัวเลขคนตกงานของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีเพิ่มขึ้น และครอบครัวที่มีคนเข้าข่ายกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่ยากจน มีเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนของกระทรวง พม. จะดำเนินการในเรื่องการฝึกทักษะเพื่อเตรียมรับอาชีพใหม่ เมื่อเปิดประเทศ นอกจากนั้น กระทรวง พม. จะเยียวยาและดูแลกลุ่มคนเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กที่ต้องเรียนหนังสือที่เราต้องดูแลในเรื่องโภชนาการและครอบครัวของเด็ก เพื่อให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการสังคมของรัฐได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีการเปิดกิจกรรมการส่งเสริมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย โดยมีและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเด็กปฐมวัย จำนวน 320 คน สำหรับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ มีการให้ความช่วยเหลือผ่านสวัสดิการสังคมของรัฐ ด้วยการมอบเงินสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชน จำนวน 7 กองทุน  มอบบ้านพอเพียงชนบท 4 ตำบล จำนวน 30 หลัง  มอบงบประมาณโครงการบ้านมั่นคง ชุมชนท่าจีน จำนวน 191 ครัวเรือน และชุมชนกิ่งแก้ว จำนวน 433 ครัวเรือน  และมอบรถเข็นคนพิการ จำนวน 20 คัน อีกทั้งมีการมอบมอบเกียรติบัตรแก่องค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ประจำปี 2564 จำนวน 9 ราย