เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานจัดงานแถลงข่าวการปฎิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพอากาศประจำปี 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการเกิดพายุลูกเห็บพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุลูกเห็บ และเพื่อเป็นการสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โดยมีการตั้งหน่วยปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อบรรเทาปัญหาพายุลูกเห็บ บรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และช่วยเหลือปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายจากพายุฤดูร้อนและพายุลูกเห็บเป็นประจำทุกปีพร้อมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนะท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมนฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับในปี 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดภาคเหนือโดยใช้เครื่องบิน Super King Air 350 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจำนวน 2 ลำและเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรืออัลฟ่าเจ็ทจากกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงและมีความเร็วในการเข้าถึงเป้าหมายในการปฎิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บร่วมกันปฎิบัติการฝนหลวง โดยใช้วิธีโจมตีด้วยพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ โดยการนำสาาฝนหลวงซิลเวอร์ไอโอไดด์เร่งกระบวนการทางธรรมชาติทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำโดยที่ผลึกน้ำแข็งจะละลายตกลงมาเป็นน้ำฝนซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและความเสียหายอันเกิดจากพายุลูกเห็บลงได้
นอกจากนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 10 มีนาคม 2564ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังได้ปฎิบัติภารกิจบินสำรวจโดยเฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 เที่ยวบิน ที่บริเวณพื้นที่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอพร้าวจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนและบริเวณรอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอำเภออมก๋อยจังหวัดเชียงใหม่ – ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก – อำเภอโฮ่ง จังหวัดลำพูนและปฎิบัติภารกิจตักน้ำดับไฟป่า รวมทั้งสิ้น 93 เที่ยวบิน ได้ปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 7 แห่งรวม 46,500 ลิตร