รมว.พม. ลงพื้นที่ จ.ยะลา บูรณาการทีมประเทศไทย มอบสิทธิสวัสดิการของรัฐให้กลุ่มโอรังอัสลี ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

วันที่ 11 มี.ค. 64 เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อขับเคลื่อนงานด้านสังคมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมอย่างเหมาะสมและครอบคลุมตามบริบทของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ สำหรับกลุ่มโอรังอัสลี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองเบตง ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวง พม.

โดยขณะนี้ มีจำนวน 58 คน ซึ่งประสบปัญหาไม่มีที่ดินทำกินและไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐ วันนี้ กระทรวง พม. จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภาครัฐทั้ง ศอ.บต. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน โดยตนได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเองเบตง จำนวน 30 ไร่ ให้กับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อให้กลุ่มโอรัง อัสลีได้มีที่ดินทำกิน พร้อมทั้งมอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด อีกทั้งนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มอบบัตรประจำตัวประชาชน และผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ เราจะเห็นว่ามีความคืบหน้าในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มโอรังอัสลีจากที่เคยได้บัตรประจำตัวประชาชนชั่วคราว วันนี้ ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง และจากที่ไม่มีที่ดินทำกิน วันนี้ ได้มีที่ดินทำกิน รวมทั้งมีจิตอาสาและสวัสดิการของรัฐที่เข้าถึงได้ นับเป็นเรื่องที่ทำเพื่อกลุ่มชาติพันธ์ดังกล่าว ดังเพลงชาติที่ว่าประเทศไทยร่วมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เพราะทุกคนที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยเป็นคนไทยเหมือนกันหมด และเราขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีประชากรจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม เจตจำนงของรัฐบาลคือเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อีกทั้งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยกลุ่มโอรังอัสลี ซึ่งเราจะดูแลให้มีอนาคต มีศักดิ์ศรี และมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน รวมทั้งมีอาชีพเป็นของตนเอง

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีการมอบบัตรประจำตัวอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และใบประกาศแก่บัณฑิตอาสาแกนนำอำเภอ จำนวน 44 อำเภอๆ ละ 1 คน รวมทั้งมีการมอบอุปกรณ์การเรียน และ เงินสงเคราะห์เป็นทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนตาดีกา จำนวน 2 แห่งๆ ละ 20 ทุน ได้แก่ ศูนย์การเรียนประจำมัสยิดตาดีกา มิฟ ตัล ฮูล ญัน นะห์ บ้านเบ้อเส้ง มีเด็กจำนวน 120 คน และศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) อิส ตี กอ มะฮ์ มีเด็กจำนวน
80 คน และมีการมอบชุดอุปกรณ์ประกอบอาชีพทำขนมและทุนประกอบอาชีพแก่แม่เลี้ยงเดี่ยว มูลค่า 30,000 บาท