กรมปศุสัตว์แนะฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัข-แมวเตรียมพร้อมจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้ถูกกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯฉบับใหม่

กรมปศุสัตว์แนะนำให้ผู้ประกอบการเพาะพันธุ์สุนัขและแมวเพื่อการพาณิชย์ทุกแห่ง เตรียมความพร้อม ปรับปรุงแก้ไขกิจการ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสุนัขในสถานที่เพาะพันธุ์สุนัข พ.ศ. 2563 และการจัดสวัสดิภาพแมวในสถานที่เพาะพันธุ์แมว พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้ลงเผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสุนัขในสถานที่เพาะพันธุ์สุนัข พ.ศ. 2563 และการจัดสวัสดิภาพแมวในสถานที่เพาะพันธุ์แมว พ.ศ. 2563 เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้จริงตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ดังนั้น กรมปศุสัตว์จึงขอแนะนำผู้ประกอบการเพาะพันธุ์สุนัขและแมวเพื่อการพาณิชย์ทุกแห่ง เตรียมความพร้อม ปรับปรุงแก้ไขกิจการของท่านให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว

เนื่องจาก กฎหมายทั้งสองฉบับมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของสุนัขและแมวในฟาร์มเพาะพันธุ์ ซึ่งส่งผลให้สุนัขและแมวในฟาร์มเพาะพันธุ์มีสวัสดิภาพที่ดีขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง สภาวะจิตใจดี มีภูมิคุ้มกันโรค เหมาะแก่การเป็นสัตว์เลี้ยง ลดปัญหาการป่วยหรือตายของลูกสัตว์ภายหลังการจำหน่าย ทำให้ผู้ที่รับมอบสัตว์มาเลี้ยงต่อ ได้สัตว์เลี้ยงที่มีสุขภาพแข็งแรง มีพฤติกรรมที่ง่ายต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับฟาร์มเพาะพันธุ์ได้เมื่อส่งมอบแก่ร้านค้าหรือผู้รับมอบแล้ว

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่กรมปศุสัตว์มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดนั้น พบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งเกี่ยวข้องกับฟาร์มที่ไม่มีคุณภาพ จัดสวัสดิภาพสัตว์ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้สุนัขและแมวภายในฟาร์มเอง หรือเมื่อส่งต่อให้ ผู้ซื้อแล้วก็ตาม มีสุขภาพไม่แข็งแรง มีความพิการ หรือไม่ตรงตามลักษณะที่ต้องการเมื่อโตขึ้น จึงเป็นเหตุให้มีการนำสุนัขและแมวเหล่านั้นมาปล่อยทิ้ง กลายเป็นสัตว์จรจัดซึ่งเป็นการสร้างปัญหาแก่สังคม

ดังนั้น กรมปศุสัตว์จึงได้ให้ความสำคัญกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขและแมว ตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ รวมทั้งลูกที่เกิดภายในฟาร์ม การปลดพ่อแม่พันธุ์ จนถึงการจำหน่าย จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 เสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศกระทรวง ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรก คือ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสัตว์ในสถานที่เพาะพันธุ์สุนัข พ.ศ. 2563 และฉบับที่สอง คือ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสัตว์ในสถานที่เพาะพันธุ์แมว พ.ศ. 2563

สาระสำคัญของประกาศของทั้งสองฉบับ ได้กำหนดให้ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขและแมวต้องจัดสวัสดิภาพสุนัขและแมว ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการจัดการอาหารและน้ำ ด้านการจัดที่พักอาศัยและสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพอนามัยการรักษาและการป้องกันโรค ด้านการจัดให้สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ ด้านสภาวะจิตใจ และด้านอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ รวมถึงการดูแลที่เป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพของสุนัขและแมวภายในฟาร์มเพาะพันธุ์ ดังนั้น ก่อนที่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งสองฉบับข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวปรับปรุงแก้ไขฟาร์มเพาะพันธุ์ให้ถูกต้องเป็นไปตามประกาศดังกล่าว เนื่องจากเมื่อประกาศทั้งสองฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วย่อมเป็นประโยชน์แก่ทั้งต่อตัวสุนัขและแมว ผู้ประกอบการ ผู้ซื้อสุนัขและแมว รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วยอย่างแน่นอน อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในที่