วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและทะเลจีนใต้แล้ว
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น บางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ลักษณะอากาศเช่นนี้ เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้เหมาะสม เพื่อปองกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน นอกจากนี้เกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ ควรมีน้ำสํารองให้แก่พืชไว้ด้วย
สำหรับกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ pm 2.5 มีการสะสมลดลง
สำหรับภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
ส่วนมากบริเวณจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ลักษณะอากาศเช่นนี้ เกษตรกร ควรระวังและป้องกัน เกษตรกร ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจําพวกหนอนในพืชไร่ และพืชผัก ไว้ด้วย
คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ใช่วงนี้ บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนี้