คปก.อนุมัติ 15 โครงการ พัฒนาแหล่งน้ำ ระบบกระจายน้ำ พร้อมบรรเทาภัยแล้ง

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 1/2564 โดยผ่านระบบการประชุมทางไกล Application Zoom ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ และห้องจำลอง อัตนโถ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ

ซึ่งมีวาระการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ ขออนุมัติโครงการและใช้เงินกองทุนเพิ่มพื้นที่ชลประทานในเขตปฏิรูปที่ดิน 15 โครงการ, การเสนอ (ร่าง) “ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. …”, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขออนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อสร้างวัด รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขออนุญาตสร้างสถานศึกษา

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า “พื้นที่ของ ส.ป.ก.ส่วนใหญ่ขาดแคลนแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำที่เพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อให้ฤดูแล้ง ยิ่งทำให้น้ำน้อย ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรอยู่ในเกณฑ์ต่ำ แต่ต้นทุนสูง ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินมีแหล่งน้ำต้นทุนเพียงพอต่อการอุปโภคและการผลิตภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นการขับเคลื่อนแผนการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบการกระจายน้ำให้มีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งจะมีผลต่อรายได้ ระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกร คปก.จึงอนุมัติโครงการและใช้เงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการเพิ่มพื้นที่ชลประทานในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยมีทั้งหมด 15 โครงการ ใน 9 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ชัยนาท นครศรีธรรมราช พัทลุง บุรีรัมย์ สกลนคร สุโขทัย สุรินทร์ และอุตรดิตถ์ เป็นเงิน 13,109,350 บาท โดยมีพื้นที่ จำนวน 2,798 ไร่ เกษตรกร 253 ครัวเรือน ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้”

สำหรับการเสนอ (ร่าง) “ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. …” นั้น ได้ดำเนินการผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนให้เห็นถึงประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับจากการบังคับใช้ระเบียบนี้ ก่อนการเสนอ (ร่าง) ระเบียบฯ ในครั้งนี้

“จากการเสนอ (ร่าง) ระเบียบฯ ดังกล่าว ผมได้ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แก้ไขปัญหากรณีที่เกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ไม่ประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินนั้นต่อไปและขอคืนสิทธิให้แก่ ส.ป.ก. เนื่องจากชราภาพ ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือประสงค์จะประกอบอาชีพอื่น และไม่มีทายาท หรือมีทายาทแต่ทายาทนั้นไม่ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม แล้ว” รมช.กษ. กล่าว

ขณะที่การอนุญาตใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่น ๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน ได้อนุญาตให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดเลย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดพระเยา และจังหวัดนครสวรรค์ สร้างวัดเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุดรธานี เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ และอนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม และสร้างถาวรวัตถุทางด้านพระพุทธศาสนา

นอกจากนั้นยังอนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินสร้างสถานศึกษา ซึ่งอนุญาตให้ใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุโขทัย เพื่อสร้างโรงเรียนบ้านธารน้ำทิพย์ และที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุดรธานี สร้างวิทยาลัยการอาชีพปลูกรากแก้วแผ่นดินนวมินทราชูทิศ เพื่อเป็นประโยชน์ด้านการเรียนรู้และทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพแก่ลูกหลานเกษตร และประชาชน ต่อไป