สธ. เปิดตัว ‘ก้าวท้าใจ Season 3’ พิชิต 100 วัน 100 กิโลเมตร

กระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการก้าวท้าใจ Season 3 พิชิต 100 วัน 100 กิโลเมตร ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังสถานประกอบการ ชุมชน และสถานศึกษา พร้อมทั้งสามารถสะสม Health Point หรือ แต้มสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ในกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการออกกำลังกายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมก้าวท้าใจ Season 3 ณ อาคารสวนกีฬา กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นสร้างเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งเสริมการออกกำลังกายโดยให้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดี ส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุขเป็นต้นแบบด้านสุขภาพ (Health Model) ร่วมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริมการออกกำลังกาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการโครงการก้าวท้าใจ มาแล้ว  2 Season มีผู้เข้าร่วมสะสมทั้งสิ้น 904,337 คน มีการใช้พลังงานสะสมทั้งหมด 988,151,245 กิโลแคลอรี

สำหรับ ในปี 2564 นี้ โครงการก้าวท้าใจ Season 3 สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยการลงทะเบียนและเก็บสะสมแต้มสุขภาพ (Health Point) ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และร่วมกิจกรรม 100 วัน 100 กิโลเมตรได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม – 8 มิถุนายน 2564 และได้มีการท้าทายผู้เข้าร่วมกิจกรรมและประชาชนทั่วประเทศให้มาร่วม ก้าวไปด้วยกัน

“ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนผ่าน Line ID @thnvr เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้งสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่    และมีการคัดกรองสุขภาพโดยการประเมินค่าดัชนีมวลกาย ส่งผลและรายงานผลการออกกำลังกาย เพิ่มรูปแบบกลุ่ม และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังสถานประกอบการ ชุมชน และสถานศึกษา รวมทั้งมีการจัดแข่งขันภายในกลุ่มและเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พร้อมทั้งสามารถสะสม Health Point หรือแต้มสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ในกิจกรรมต่าง ๆ    เป็นการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการออกกำลังกายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในการแลกของรางวัล และ  เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพ โดยการได้รับรางวัลแบ่งเป็น 3 รูปแบบได้แก่

1) รางวัลสำหรับผู้ที่สามารถพิชิต 100 กิโลเมตร 10,000 คนแรก

2) การจับรางวัลสำหรับผู้พิชิต 100 วัน 100 กิโลเมตร          

 3) ใช้ Health Point แลกรับของรางวัล”

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กลุ่มวัยทำงาน ควรออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3-5 วัน ๆ ละ 30 นาที ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่งหรือเดิน เป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต ฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น เผาผลาญไขมัน และลดระดับคอเลสเตอรอล รวมทั้งการวิ่งที่เหมาะสมต่อร่างกาย จะช่วยลดปัญหาข้อต่อเสื่อม ลดอาการปวดข้อและป้องกันการเกิดข้อติด การวิ่งเพื่อสุขภาพจะต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3- 5 วัน วันละ 30 นาที ไม่หักโหมหรือเหนื่อยมากจนเกินไป นอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดได้ ช่วยให้การทำงานของปอด หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง ทั้งยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือน้ำหนักตัวมากค

วรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในช่วงนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ การออกกำลังกายเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถสร้างเกราะป้องกันโรค ลดความเจ็บป่วยได้ และล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอกอฮอล์เป็นประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีคนแออัด แต่ถ้าจำเป็นต้องไปควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา