รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่หนองคายติดตามสถานการณ์ยาเสพติด ชี้เป็นพื้นที่ลักลอบนำเข้าสูงสุดในอีสานตอนบนต้องเร่งสกัด ยันรัฐบาลเอาจริงสั่งเร่งปราบปราม เชื่อทำได้ตามเป้าหมายยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายประเสริฐ ลือชานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล ปลัด จ.หนองคาย พ.อ.สาธิต อุ่นกาน รอง ผอ.กอ.รมน. พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากร จ.หนองคาย พ.ต.อ.ธานินท์ อิทพรต ผกก. ตรวจคนเข้าเมือง หนองคาย นายเทอดศักดิ์ อังพัฒพงษ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดหนองคาย พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13)

เดินทางไปสำรวจเส้นทางการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและตรวจเยี่ยมบ้านสีกายเหนือ หมู่ 6 ต.สีกาย อ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ยาเสพติดและ ผลการดำเนินงานจากหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองหนองคาย และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สีกาย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณและชื่นชมในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน ที่เสียสละกำลังกาย กำลังใจ เพื่อสังคมที่น่าอยู่ และปลอดภัยจากยาเสพติด โดยสถานการณ์ยาเสพติด จ.หนองคายจากข้อมูลการจับกุมคดีสำคัญในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีผลการจับกุมคดีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเป็นลำดับ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ชนิดยาเสพติดที่มีการลักลอบนำเข้า ได้แก่ ยาบ้า ไอซ์ คีตามีน และกัญชา พื้นที่นำเข้ายาเสพติดที่สำคัญ ได้แก่ อ.เมือง อ.โพนพิสัย อ.ท่าบ่อ และอ.สังคม โดยการจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่หนองคาย เดือนต.ค. – ธ.ค.2563 จำนวน 19 คดี แยกเป็นคดียาบ้า 14 คดี ของกลางยาบ้า 18.8 ล้านเม็ด ไอซ์ 4 คดี ของกลาง 821 กิโลกรัม คดีกัญชาแห้งอัดแท่ง 1 คดี ของกลางกัญชา 280 กิโลกรัม และคีตามีน 30 กิโลกรัม ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ และเป็นกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงทั้งในและนอกพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมีกลุ่มนายทุน นักค้านอกภาค โดยมีเครือข่ายคนในพื้นที่เป็นตัวหลักไว้คอยประสานงาน และมีความชำนาญเส้นทางการคมนาคมในการประสานงาน โดยแหล่งต้นทางของยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การค้าและแพร่ระบาดนั้น การค้ายาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของผู้ค้ารายย่อย ที่มีการค้าเพื่อเสพ ซึ่งในปัจจุบันการขยายตัวของกลุ่มนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการให้เครดิตของผู้ค้าที่ต้องการ ขยายเครือข่ายและระบายยาเสพติดที่มีอยู่ในสต๊อก จากข้อมูลการจับกุมและกลุ่มผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ พบว่ามีเยาวชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป

มีการรับจ้างวางยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ค้า การแข่งขันทางการค้าของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่สูงขึ้น มีการให้เครดิตกับกลุ่มผู้เสพที่ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน มีการสั่งซื้อที่สะดวกง่ายผ่านเทคโนโลยีช่องทางการสื่อสารออนไลน์ การจ่ายค่ายาเสพติด กลุ่มผู้ค้ารายสำคัญ รายกลาง จะใช้วิธีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือฝากตามร้านค้าปลีกภายในหมู่บ้าน ผ่านบริการฝากเงินของไปรษณีย์ หรือตามตู้ฝากเงินสด สำหรับผู้ค้ารายย่อย ผู้เสพ จะใช้รูปแบบการจ่ายเป็นเงินสด หรือวางตามจุดที่นัดหมายแล้วแต่ตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย

“รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เอาจริงเอาจังในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการตัดเงินทุนในการนำมาใช้ในกระบวนการ ซึ่งในพื้นที่ จ.หนองคายนั้น ถือเป็นจุดหนึ่งที่สำคัญในการที่จะสกัดยาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงมาจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ดังนั้นตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มาลงสำรวจพื้นที่ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า จ.หนองคายแห่งนี้ จะสกัดกั้นยาเสพติดและขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาจากการจับกุมได้ตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้”นายสมศักดิ์ กล่าว

//////