ผอ.อสป.พร้อมเดินหน้าพัฒนาสะพานปลาสมุทรสาครต่อ หลังโควิด-19 คลี่คลาย เร่งปั้นเป็น ”Hub of Seafood” เน้นอาหารทะเลสด สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน และถูกสุขอนามัย รับทับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ ย้ำชัด! การ์ดไม่ตก คุมเข้มความปลอดภัยทุกหย่อมหญ้า
ดร.มณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สะพานปลาสมุทรสาคร ได้เปิดให้บริการแล้ว หลังปิดให้บริการชั่วคราวเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา หลังมีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งการเปิดให้บริการครั้งนี้ อสป.ในฐานะที่กำกับดูแลสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและการ์ดไม่ตก ยังมีมาตรการต่างๆ ออกมาคุมเข้มต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าบริหารงาน พัฒนาและปรับปรุงสะพานปลาสมุทรสาครเต็มสูบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็น “Hub of Seefood” และเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ในการรับประทานอาหารทะเลสด สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน และถูกสุขอนามัย
“อสป.ยังคงเดินหน้าต่อ ตามแผนงานเดิมที่วางไว้ ในการพัฒนาสะพานปลาสมุทรสาคร แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้สะดุด และหยุดชะงักไปบ้าง แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็ต้องลุยต่อ เพื่อให้งานจบและเสร็จตามเป้าหมาย ซึ่ง อสป.คาดหวังว่า เมื่อแล้วเสร็จ สะพานปลาสมุทรสาคร จะเป็นจุดเชคอิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และเป็น “Hub of Seefood” ของจ.สมุทรสาคร ซึ่งมีจุดขายใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ใช้เวลาแค่ 20-30 นาทีเท่านั้น คาดว่า ต่อวันจะมีลูกค้าทั้งคนในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีเงินสะพัดมหาศาลแน่นอน”
สำหรับเรื่องความปลอดภัย ในเรื่องของการระบาดของเชื้อโควิด-19 ณ วันนี้ อยากให้ผู้บริโภค ผู้เข้ามาใช้บริการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการแพปลา มั่นใจได้ว่ามี 100% เพราะมีการตั้งจุดตรวจสุขอนามัยตลอด และดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรอบครอบ เข้มงวด นอกจากนี้ ยังอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.) ซึ่งเป็นศูนย์เฉพาะกิจ ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ และพลเรือเอกชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองผู้อำนวยการด้วย
ดร.มณเฑียร กล่าวว่า การปรับปรุงพื้นที่สะพานปลาสมุทรสาคร ที่ตั้งอยู่ ต.มหาชัย บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ 3 งาน 96.1 ตรารางวา มีความยาว 155 เมตร ติดกับแม่น้ำท่าจีน และด้านหน้าติดถนน นอกจากให้มีความทันสมัยมากขึ้น เป็นตลาดสัตว์น้ำครบวงจร ศูนย์อาหารทะเล และซุปเปอร์มาร์เก็ตซีฟู้ด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว อสป.ยังมีแผนที่จะทำห้องประชุมขนาดความจุ 150 ที่นั่ง เพื่อเตรียมรองรับกลุ่มประชุมสัมมนาด้วย
……………………………………………………………….