‘อาเซียน’ เตรียมถกอย่างเป็นทางการนัดแรก เคาะแผนดำเนินงานให้สำเร็จภายในปีนี้

‘อาเซียน’ เตรียมนัดประชุมด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้านการประชุมคณะกรรมการรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียน (CoW) จะหารือบรรเทาผลกระทบและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 และการรับมือ 4IR ส่วนการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) จะหารือจัดทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 การประกาศเจรจาจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา พร้อมเล็งจัดตั้ง คกก. อิสระด้าน NTM แก้ปัญหาความขัดแย้งด้านมาตรการที่มิใช่ภาษี

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดี
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการรายสาขา
ด้านเศรษฐกิจของอาเซียน หรือ Committee of the Whole (CoW) ครั้งที่ 11 ในวันที่ 23 มกราคม 2564 และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน หรือ SEOM ครั้งที่ 1/52 ระหว่างวันที่ 2527 มกราคม 2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งจะเป็นการประชุมด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการครั้งแรกของอาเซียน ในปี 2564 ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของบรูไนดารุสซาลาม

นายดวงอาทิตย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุม CoW ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้งสามเสาและองค์กรรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียน อาทิ คณะกรรมการด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะร่วมหารือแผนการดำเนินงานสำคัญ และประเด็นที่แต่ละสาขาจะต้องดำเนินงาน เช่น การบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 และการรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 เป็นต้น

นายดวงอาทิตย์ เพิ่มเติมว่า ส่วนการประชุม SEOM จะมีการหารือในประเด็นสำคัญ เช่น การพิจารณาให้ความเห็นชอบประเด็นด้านเศรษฐกิจที่บรูไนฯ จะเสนออาเซียนดำเนินการให้สำเร็จภายในปีนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการฟื้นฟู ด้านการเป็นดิจิทัล และด้านความยั่งยืน รวม 10 ประเด็น เช่น การจัดทำเครื่องมือในการประเมินประสิทธิภาพของมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) การจัดทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 และการประกาศเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา เป็นต้น รวมทั้งพิจารณาการดำเนินงานขององค์กรรายสาขาที่อยู่ภายใต้การกำกับของ SEOM เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการอิสระด้าน NTM เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งด้านมาตรการที่มิใช่ภาษีระหว่างกัน

นอกจากนี้ จะหารือการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 อาทิ การพิจารณาขยายบัญชีสินค้าจำเป็นที่จะไม่ใช้ข้อจำกัดการส่งออกระหว่างกัน เพื่อรักษาความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตของอาเซียนให้เข้มแข็ง ในช่วงสถานการณ์ของโควิด-19 รวมทั้งหารือแผนความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา 11 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค. – พ.ย. 2563 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนมีมูลค่ารวม 86,312 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 50,564 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียนมูลค่า 35,748 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

————————————-