อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เผย เกษตรกรเข้าใจเรื่องการปรับปรุงบำรุงดิน เห็นผลช่วยลดต้นทุนเพิ่มรายได้จริง

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2561 นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมด้วย นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ตามโครงการสานพลังประชารัฐ ณ บ้านวังมะสระ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา และพบปะหารือเกษตรกรในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้

โดยอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ระบุว่า สำหรับโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดินนั้น ได้เข้าไปมีส่วนร่วม 1 ใน 5 เสือ กษ. (ชป. พด. กสก. กสส. และ ธ.ก.ส.) ในฐานะพี่เลี้ยงที่เข้าไปให้ความรู้เกษตรกรในการเตรียมดินเพื่อปลูกข้าวโพด การใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับพืชและดิน รวมถึงเมื่อเก็บผลผลิตข้าวโพดเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าไปให้คำแนะนำพร้อมดูแลเกษตรกรให้ไถกลบตอซังข้าวโพดแทนการเผาเพื่อให้ตอซังเหล่านี้ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย ให้แก่ต้นข้าวต่อไป ซึ่งการเผาตอซังนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างมลพิษและยังเป็นการทำลายอินทรีย์วัตถุในดิน ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของกรมพัฒนาที่ดิน จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากเมื่อดินมีความอุดมสมบูรณ์ และมีความเหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช จะส่งผลให้ต้นพืชเจริญเติบโตดี ลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยเคมี และมีผลผลิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่ นายสนั่น ดิษฐกุล อบต.ตำบลพรมพิราม ม.3 บ้านตะพานหิน ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิษณุโลก เกษตรกรในพื้นที่ให้ความคิดเห็นว่า การทำพืชหลังนา หากมีการดำเนินการให้ดีจะช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรได้มาก หากเกษตรกรมีการวางเเผนอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ เกษตรกรที่ทำนา เมื่อหยุดทำนา แนะนำให้ไถกลบตอซังเพื่อเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้ดิน ทำให้การปลูกพืชหลังจากนั้นจะลดต้นทุน และลดรายจ่ายลงได้ ไม่เพียงแต่การปลูกข้าวโพดเท่านั้น การปลูกพืชผัก เพื่อเป็นการพักดินจากการปลูกข้าว ก็จะเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน