กรมบังคับคดีชี้แจงกรณีเหมืองทองจังหวัดเลย

​ตามที่มีข่าว จับตาความรุนแรงฟื้นฟูเหมืองทองเลยซ้ำรอยคลิตี้ นักการเมือง-อิทธิพลทุนท้องถิ่นผสมโรงอื้อ โดยมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่โดยกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 นั้น

​กรณีดังกล่าวเป็นคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลางคดีหมายเลขแดงที่ ล.1913/2558 ระหว่าง ธนาคารดอยซ์ แบงก์ เอจี โจทก์ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด จำเลย ซึ่งศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 อำนาจในการจัดการทรัพย์สินของบริษัท ทุ่งคา จำกัด จึงตกอยู่แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เข้ามาภายในกำหนดระยะเวลา 2 เดือน ตามมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งเมื่อครบกำหนดระยะเวลาแล้วมีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จำนวน 176 ราย รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้นจำนวน 4,285,187,078.47 บาท

​ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ศาลจังหวัดเลยได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีแพ่งที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดเลย ซึ่งต่อมา ศาลจังหวัดเลย ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ชำระเงินให้แก่โจทก์และแก้ไขฟื้นฟูพื้นที่รอบเหมืองทองคำด้วยค่าใช้จ่ายของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด จนกว่าพื้นที่เหมืองแร่ทองคำจะมีสภาพที่ใช้อุปโภคบริโภคได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของทางราชการ​ในการดำเนินการรวบรวมทรัพย์สินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ยึดทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในพื้นที่ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เลขที่ 179 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้แก่ อาคารโรงงาน เครื่องจักร สิ่งของต่าง ๆ ภายในโรงงาน และสินแร่จำนวน ๒๒๒ ถุง ส่วนที่ดินที่ตั้งโรงงานเนื่องจากไม่ใช่ทรัพย์ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด จึงไม่ได้ทำการยึดไว้ ทั้งนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เข้าประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการและกลุ่มบุคคลในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งในจังหวัดเลยและกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับ

การจัดการทรัพย์สินของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด มาโดยตลอด และเนื่องจากมีประเด็นจากการประชุมเกี่ยวกับทรัพย์ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ที่อาจสูญหาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงได้จัดประชุมเจ้าหนี้ในประเด็นดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้นำเงินจากกองทรัพย์สินของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ไปจ้างคนในพื้นที่จัดเวรยามเฝ้าระวังทรัพย์สิน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขายทอดตลาดสินแร่จำนวน 190 ถุง โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ไขนภาสตีล (ปราจีนบุรี) เป็นผู้ซื้อได้ในราคา 8,240,000 บาท ผู้ซื้อทรัพย์ได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างผู้ซื้อดำเนินการขออนุญาตต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย ขอครอบครองและขนย้ายสินแร่ ตามประกาศของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานการเหมืองแร่ ทรัพย์รายการอื่นๆ ที่ได้ทำการยึดไว้แล้วแต่ยังไม่มีการประกาศขายทอดตลาดนั้น เนื่องจากในส่วนของเครื่องจักรและอาคารโรงงานบางส่วนมีของเหลวปนเปื้อนสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการแต่งแร่และประกอบโลหะกรรมตกค้างอยู่ ซึ่งจะต้องมีการบำบัด กำจัด อย่างถูกวิธีเพื่อมิให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะอยู่ระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กรมบังคับคดี หารือร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดของเสียและของเหลวที่ปนเปื้อนสารเคมีอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด

​1ทั้งนี้ ในการรวบรวมทรัพย์สินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายสามารถช่วยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมทรัพย์สินเพิ่มเติมได้โดยการแจ้งข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จักได้รวบรวมทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลายต่อไป

……………………………………..