ผู้ว่าฯอยุธยา เป็นประธานประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด(ศปก.จ.อย) เพื่อเตรียมสถานที่รองรับผู้ป่วย พร้อมตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ

วันที่ 8 มกราคม เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด(ศปก.จ.อย) โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รอง ผอ.รมน.จ.อย. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการฯ หน่วยงานภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณามาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมจากโรคไวรัส COVID-19 โดยที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 23 ราย โดยได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลต่างๆเข้าตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ เพื่อควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการนำเสนอการเตรียมสถานที่รองรับหากมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น. นอกจากนี้ยังได้หารือการตรวจเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันอีก 6 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้ง 5 ราย พบว่ามีกิจกรรมเกี่ยวข้องกับบ่อนไก่ ส่วนอีก 1 รายเป็นเด็ก 9 ขวบ ทั้งหมดเราได้นำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแยกโรค อำเภอนครหลวง มีเพียงเด็ก 9 ขวบ ได้รักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดได้ดำเนินการตามมาตรการ เมื่อมีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงจะไปเชิญตัวมาตรวจเชื้อทันที หากเราตรวจได้เร็ว พบได้เร็ว เราจะป้องกันได้เร็ว ส่วนมาตรการเพิ่มเติม คือการออกไปตรวจค้นหาเชิงรุกในผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเราได้เกิดความสบายใจ เรื่องที่จะต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านในเวลาคือ เรื่องการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด เนื่องจากพระนครศรีอยุธยาเป็นหนึ่งใน 28 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง หากคนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงจะเดินทางเข้าพระนครศรีอยุธยา เราก็ต้องมีการควบคุมคัดกรอง พี่น้องชาวพระนครศรีอยุธยาที่จะเดินทางออกไปข้ามพื้นที่ เขาก็ต้องมีการควบคุมเช่นกัน ซึ่งตามข้อกำหนดของ สบค. ได้ให้งดหรือชะลอการเดินทาง ยกเว้นที่จำเป็น ดังนั้นท่านจะต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นของท่านว่ามีเหตุผลอะไรที่จะต้องเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด สิ่งเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกกับทุกท่าน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้กำหนดแบบรับรองยืนยันตัวเอง โดยกรอกชื่อ ที่อยู่ เหตุผลความจำเป็น เช่น ต้องไปซื้อวัสดุสิ่งของมาทำงาน ต้องไปพบแพทย์ ติดตัวไว้ 1 ชุด และสำเนาไว้ 1 ชุด เพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องข้ามพื้นที่ ทั้งนี้อาจจะสร้างความยุ่งยากอยู่บ้าง แต่น่าจะช่วยกลั่นกรองและป้องกันได้ให้ดีที่สุด โดยสามารถดาวน์โหลดแบบในการรับรองตัวเองได้ที่คิวอาร์โค้ดที่ได้เผยแพร่ทางสื่อโซเชียล หรือ สอบถามที่อำเภอด้วยตนเอง

ด้าน นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เราพบผู้ป่วยระลอกใหม่ รวมแล้ว 23 ราย พอเรารู้ว่าอยู่ตรงไหนเราได้จัดทีมเข้าไปหาไทม์ไลน์ของผู้ป่วย แล้วก็นำผู้สัมผัสมาตรวจ ในส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พร้อมนี้เราได้ใช้มาตราการตรวจค้นหาเชิงรุก ไปตรวจยังพื้นที่เสี่ยงที่พบเชื้อ รวมกว่า 8,000 ราย ผลออกมาแล้วครึ่งหนึ่งเป็นลบ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งรอผลเนื่องจากปริมาณการตรวจมีจำนวนมาก ซึ่งผลการดำเนินการเป็นไปด้วยดีประชาชนให้ความสนใจออกมาตรวจกันจำนวนมาก