กรมการแพทย์ประกาศความพร้อมทุกหน่วยงานในสังกัดมีแผนดำเนินการต่อเนื่อง รับมือโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ พร้อมเข้าสู่การแพทย์วิถีใหม่ ลดผลกระทบ ลดแออัด ปลอดภัย และเท่าเทียม

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภาวะวิกฤติทางด้านสุขภาพที่เกิดจาก “โรคติดเชื้ออุบัติใหม่” ที่ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ ประเทศไทยมีการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งบูรณาการทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เป็นอย่างดี จนได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ แต่การบริหารจัดการที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะด้านการแพทย์และสาธารณสุข อาทิ บุคลากร วัสดุ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ฯลฯ ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักหรือล่าช้าในการให้บริการทางการแพทย์ปกติ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานพยาบาลต้องมีการเตรียมความพร้อมโดยการจัดทำแผนประคองกิจการ เพื่อให้สถานพยาบาลสามารถดำรงภารกิจหลักขณะเกิดสถานการณ์วิกฤตและภัยสุขภาพได้ และเป็นการลดผลกระทบด้านต่าง ๆ จากการหยุดชะงักการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขในสภาวะวิกฤติ และบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นแก่ผู้ป่วยบุคลากรการแพทย์และโรงพยาบาลจากสภาวะวิกฤติให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้กำหนดประเด็น “หน่วยบริการก้าวหน้า” New Normal Medical care : การบริการทางการแพทย์วิถีใหม่ มีเป้าหมายคือ ปลอดภัย ลดความแออัด และมีความเท่าเทียม ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ให้โรงพยาบาลศูนย์ (ระดับ A) และโรงพยาบาลทั่วไป (ระดับ S) มีการจัดทำแผนประคองกิจการอย่างต่อเนื่องสำหรับการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤติจากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่สำหรับสถานพยาบาล (Business Continuity Plan for Emerging Infectious Disease in Healthcare facilities: BCP for EID in Healthcare facilities) ซึ่งประโยชน์ของสถานพยาบาลจะได้รับ คือ มีแผนแม่บทดำเนินการของโรงพยาบาลในการบริหารกำลังคน ทรัพยากร งบประมาณในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงตอนสนองความคาดหวังระดับนโยบาย และความคาดหวังของประชาชนได้ พร้อมทั้งมีการพัฒนาโครงสร้างและระบบพร้อมรับโรคอุบัติใหม่ ซึ่งในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ หน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ได้ดำเนินการจัดทำแผนดังกล่าวครบทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ลดการติดเชื้อ ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับบริการทั้งในภาวะปกติและกรณีหากมีการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในประเทศไทย

————————